รู้จัก กาแฟดริป ศิลปะแห่งการชง เพื่อรังสรรค์รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

Image
ด ริ ป กาแฟ

 

Key Takeaway

  • กาแฟดริป (Drip Coffee) เป็นกาแฟที่ถูกสกัดจากเมล็ดกาแฟด้วยวิธีการหยด โดยใช้การเทน้ำร้อนให้ไหลผ่านผงของเมล็ดกาแฟที่ถูกบดบนแผ่นกรอง
  • กาแฟที่ได้จะมีสีน้ำตาลเข้ม มองแล้วมีลักษณะเหมือนกับกาแฟดำ หรืออเมริกาโน แต่จะมีรสชาติและลักษณะที่แตกต่างกัน สามารถดื่มแบบร้อน หรือจะดื่มแบบเย็นเป็นกาแฟดริปใส่น้ำแข็งก็ได้
  • กาแฟดริปใช้อัตราส่วนสำหรับการชงที่ไม่เท่ากับกาแฟรูปแบบอื่นๆ รวมไปถึงวิธีดริปกาแฟที่มีรูปแบบไม่เหมือนกับวิธีการชงกาแฟทั้งจากเครื่องหรือจากอุปกรณ์อื่นๆ ด้วยเช่นกัน
  • กาแฟดริปนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องใช้อุปกรณ์จำนวนมาก ใช้เพียงแค่เมล็ดกาแฟ ตัวกรอง ดริปเปอร์ และน้ำร้อน ก็สามารถดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟได้แล้ว
  • ทาง Peaberry Thai พร้อมให้บริการและดูแลตั้งแต่ขั้นตอนของการเลือกเมล็ดกาแฟที่มีหลากหลายสายพันธุ์ทั้งจากประเทศไทยและต่างประเทศ ตั้งแต่เกรดทั่วไปจนถึงเกรดพรีเมียม

กาแฟดริป คือหนึ่งในกรรมวิธีการดื่มกาแฟที่คอกาแฟตัวจริงไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะทำให้ได้ดื่มด่ำกับรสชาติ และกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเมล็ดกาแฟแล้ว ยังช่วยให้ได้เพลิดเพลินและผ่อนคลายไปกับวิธีดริปกาแฟ ที่ต้องใช้สมาธิและความพิถีพิถันควบคู่กันไป แต่ถ้าหากใครที่ยังไม่คุ้นเคยกับการดริปกาแฟ บทความนี้จะพาไปดูข้อมูลเกี่ยวกับกาแฟดริป ตั้งแต่หลักการในการดริปกาแฟ วิธีดริปกาแฟ ไปจนถึงประโยชน์ของกาแฟดริปที่ทำให้คอกาแฟหลายคนนั้นชื่นชอบ ที่รับรองได้เลยว่าจะทำให้เข้าใจวิถีของกาแฟดริปได้อย่างดียิ่งขึ้น 

 

ทำความรู้จัก กาแฟดริป (Drip Coffee) คืออะไร

 

ทำความรู้จัก กาแฟดริป (Drip Coffee) คืออะไร

กาแฟดริป (Drip Coffee) นั้นเริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นครั้งแรก ในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่ประเทศฝรั่งเศส แต่วิธีดริปกาแฟในช่วงแรกๆ นั้นมักจะใช้การกรองผ่านโลหะหรืออุปกรณ์ที่ยังทำให้เศษผงของเมล็ดกาแฟนั้นตกตะกอนอยู่ในกาแฟ 

จากนั้น Amalie Auguste Melitta Bentz แม่บ้านชาวเยอรมันที่จะต้องทำหน้าที่เตรียมกาแฟในทุกๆ วัน ได้มีการคิดค้นวิธีดริปกาแฟแบบใหม่ที่กลายเป็นประวัติศาสตร์สำคัญของวงการกาแฟ ด้วยการใช้กระดาษที่เธอพัฒนาขึ้นมาเองเป็นตัวกรองสำหรับการดริปกาแฟ ซึ่งเป็นที่มาของกระดาษทรงกรวยที่เป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำหรับการดริปกาแฟนั่นเอง 

กาแฟดริป (Drip Coffee) เป็นกาแฟที่ถูกสกัดจากเมล็ดกาแฟด้วยวิธีการหยด โดยใช้การเทน้ำร้อนให้ไหลผ่านผงของเมล็ดกาแฟที่ถูกบดบนแผ่นกรอง โดยกรรมวิธีในการชงกาแฟดังกล่าวจะถูกเรียกว่า การดริปกาแฟ กาแฟที่ได้จะมีสีน้ำตาลเข้ม มองแล้วมีลักษณะเหมือนกับกาแฟดำ หรืออเมริกาโน แต่จะมีรสชาติและลักษณะที่แตกต่างกัน สามารถดื่มแบบร้อน หรือจะดื่มแบบเย็นเป็นกาแฟดริปใส่น้ำแข็งก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใส่นม หรือเพิ่มรสชาติอื่นๆ ให้เป็นเมนูกาแฟทั่วๆ ไปก็ได้ด้วยเช่นกัน 

 

เปรียบเทียบกาแฟดริป กับกาแฟแบบอื่นๆ ต่างกันอย่างไร?

 

เปรียบเทียบกาแฟดริป กับกาแฟแบบอื่นๆ ต่างกันอย่างไร?

กาแฟดริป แม้มองดูภายนอกจะมีสีน้ำตาลเข้มคล้ายกับกาแฟดำทั่วๆ ไป แต่กลับมีความแตกต่างกันในเรื่องของรสชาติ กลิ่น และความเข้มข้น ซึ่งเกิดจากกาแฟดริปใช้อัตราส่วนสำหรับการชงที่ไม่เท่ากับกาแฟรูปแบบอื่นๆ รวมไปถึงวิธีดริปกาแฟที่มีรูปแบบไม่เหมือนกับวิธีการชงกาแฟทั้งจากเครื่องหรือจากอุปกรณ์อื่นๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง มาลองดูการเปรียบเทียบกาแฟดริปกับกาแฟอื่นๆ ได้ดังนี้ 

กาแฟดริป VS เอสเปรสโซ แตกต่างกันอย่างไร?

เอสเปรสโซ เป็นกาแฟสไตล์อิตาเลี่ยน ซึ่งได้จากการชงด้วยวิธีการบีบอัดน้ำร้อนให้ไหลผ่านผงกาแฟอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องใช้เมล็ดกาแฟคั่วเข้มที่ถูกบดให้เป็นผงอย่างละเอียดอัดแน่นเป็นก้อน อีกทั้งยังต้องอาศัยเครื่องชงกาแฟอย่าง Espresso Machine เพื่อให้ได้เป็นช็อตกาแฟที่ถูกเรียกว่า Perfect Shot เสิร์ฟในแก้วเล็กๆ ขนาด 1-2 ออนซ์ เอสเปรสโซจะประกอบไปด้วยครีม่า (Crema) เป็นชั้นโฟมที่ลอยอยู่ด้านบนซึ่งมักจะมีรสขม และน้ำกาแฟที่แม้จะมีปริมาณน้อยแต่ก็จะมีความเข้มข้นทั้งในเรื่องของรสชาติและกลิ่น ทำให้หลายคนมักจะรู้สึกว่ากาแฟเอสเปรสโซนั้นมีความขมและมีความเข้มเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้วกาแฟเอสเปรสโซจะต้องดื่มภายในแก้วช็อตเล็กๆ ที่จะไม่มีการเติมนมหรือน้ำเปล่าใดๆ เพื่อให้ได้รสสัมผัสของ Perfect Shot มากที่สุด แต่เพราะความเข้มข้นของกาแฟเอสเปรสโซเองก็กลายเป็นกาแฟเบสที่นิยมนำไปต่อยอดในเมนูกาแฟอื่นๆ ด้วยเช่นกัน 

ในขณะที่กาแฟดริปนั้นเกิดจากการสกัดกาแฟด้วยน้ำร้อนให้ไหลผ่านผงกาแฟบนแผ่นกรองอย่างช้า ๆ ด้วยมือ จึงไม่ต้องใช้อุปกรณ์เครื่องชงกาแฟ อีกทั้งเมล็ดกาแฟที่ใช้ก็ไม่ต้องบดให้ละเอียด รวมทั้งกาแฟดริปมีอัตราส่วนของน้ำที่มากกว่า ทำให้ช่วยลดความเป็นกรด (Acidity) ของกาแฟลง และดึงรสสัมผัสอื่นๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมล็ดกาแฟแต่ละแบบออกมาได้ดี นอกจากนี้เพราะกาแฟดริปมีการกรองผ่านแผ่นกรองที่เป็นกระดาษ จึงไม่มีครีม่าหรือน้ำมันที่เกิดขึ้นจากการคั่วเมล็ดกาแฟออกมาปนอยู่ในน้ำกาแฟมากเท่ากับเอสเปรสโซ ทำให้ได้รสชาติของกาแฟที่มีความคลีนและนุ่มนวล 

กาแฟดริป VS อเมริกาโน แตกต่างกันอย่างไร?

อเมริกาโน หรือที่หลายคนคุ้นเคยกันในรูปแบบกาแฟดำเย็น ถือเป็นกาแฟที่มีการต่อยอดมาจากเอสเปรสโซ โดยการเติมน้ำร้อนหรือน้ำเย็นลงไปในช็อตเอสเปรสโซ เพื่อให้มีความเจือจางมากขึ้น ดังนั้นการชงอเมริกาโนก็ยังต้องอาศัยเครื่องชงกาแฟ Espresso Machine รวมไปถึงการสกัดกาแฟด้วยวิธีการเดียวกับกาแฟเอสเปรสโซ การดื่มอเมริกาโนนั้นจะไม่มีการเติมนม นิยมดื่มแบบเย็นด้วยการเพิ่มน้ำแข็งลงไป รสชาติของกาแฟที่ได้จะมีความเข้มข้นแต่ไม่มากเท่ากับเอสเปรสโซจึงทำให้สามารถดื่มได้ง่ายกว่า หลายคนยังนิยมดื่มคู่กับอาหารหรือขนมหวานเพื่อช่วยตัดรสชาติให้ดียิ่งขึ้น บางคนก็ยังดัดแปลงการดื่มด้วยการเติมน้ำเชื่อม น้ำผลไม้ หรือน้ำผึ้งลงไปด้วยเช่นกัน

ส่วนกาแฟดริปที่หลายคนมักจะคิดว่ามีความเหมือนกับอเมริกาโน เพราะมีสีน้ำตาลเข้ม และไม่มีการเติมนมลงไป กลับมีรสสัมผัสที่แตกต่างกับอเมริกาโน ซึ่งมาจากการใช้ระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟ อเมริกาโนจะเหมือนกับเอสเปรสโซตรงที่ใช้เมล็ดกาแฟคั่วเข้ม หรือบางครั้งอาจจะเป็นเมล็ดกาแฟคั่วกลาง-เข้ม ทำให้คาแรคเตอร์ของเมล็ดกาแฟแต่แรกนั้นถูกสลายออกไปจากความร้อนที่ใช้ในการคั่ว ในขณะที่กาแฟดริปมักจะใช้เมล็ดกาแฟคั่วอ่อนไปจนถึงกลาง ที่ยังสามารถคงคาแรคเตอร์ของเมล็ดกาแฟเอาไว้ได้ดี อีกทั้งยังมีปริมาณน้ำที่จะต้องใช้ไม่เท่ากัน โดยสำหรับการชงกาแฟดริป อัตราส่วนของน้ำก็ยังมากกว่าการชงอเมริกาโน และใช้น้ำมากในขั้นตอนการสกัดกาแฟ ทำให้กาแฟอเมริกาโนจะมีบอดี้เข้มข้น เน้นรสสัมผัสที่เกิดจากการคั่วกาแฟ จึงมีรสชาติแนว Nutty และ Chocolate ส่วนกาแฟดริปนั้นจะมีบอดี้ที่จางกว่า แต่กลับให้รสชาติที่สื่อถึงคาแรคเตอร์ของเมล็ดกาแฟได้ดีซึ่งมีทั้งแบบที่เป็น Fruity, Floral และ Herb  นอกจากนี้กาแฟดริปมักจะมีรสสัมผัสติดปลายลิ้นหรือที่เรียกว่า Aftertaste ได้นานกว่า ซึ่งบางคนจะรู้สึกถึงความหวานฉ่ำอยู่ในปากหลังดื่มกาแฟดริปนั่นเอง  

กาแฟดริป VS ลาเต้ แตกต่างกันอย่างไร?

ลาเต้ เป็นเครื่องดื่มกาแฟที่ใช้กาแฟตัวเบสจากการชงแบบเอสเปรสโซ และทำการผสมนมลงไปในกาแฟโดยตรง อีกทั้งยังมีชั้นของฟองนมอยู่ด้านบน ทำให้ได้เครื่องดื่มที่มีความหอมกรุ่นของเมล็ดกาแฟ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีรสชาติที่นุ่มนวลกว่า เนื่องจากนมจะช่วยลดความเข้มของกาแฟได้ดี การดื่มลาเต้นั้นมีทั้งแบบเย็นและแบบร้อน โดยการดื่มลาเต้แบบร้อน จะมีสิ่งที่เรียกว่า Latte Art เกิดจากการเทนมลงไปบนกาแฟอย่างมีเทคนิคเพื่อทำให้เกิดเป็นลวดลายต่างๆ เพิ่มความเพลิดเพลินให้กับการดื่มกาแฟได้ 

ในขณะที่กาแฟดริปนั้น นอกจากจะมีกรรมวิธีการชงที่แตกต่างจากลาเต้แล้ว ก็ยังไม่ค่อยนิยมดื่มแบบใส่นมลงไป เนื่องจากกาแฟดริปมีอัตราส่วนของน้ำค่อนข้างมาก อีกทั้งกาแฟที่ได้จากการดริปกาแฟมักจะมีบอดี้ที่เจือจาง ทำให้หากใส่นมลงไปก็จะยิ่งทำให้เจือจางมากขึ้น สำหรับคนที่อยากชงกาแฟสไตล์ลาเต้หรือกาแฟใส่นมดื่มเองง่ายๆ ที่บ้าน แต่ไม่มีเครื่องชงกาแฟ ก็อาจจะปรับกาแฟดริปให้สามารถชงแบบนมได้ ด้วยการชงกาแฟดริปลดอัตราส่วนของน้ำลง ซึ่งก็ถือว่าพอทดแทนกันได้

กาแฟดริป VS คาปูชิโน่ แตกต่างกันอย่างไร?

คาปูชิโน่ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของกาแฟที่เกิดจากการใช้ช็อตกาแฟเอสเปรสโซแล้วเติมนมและฟองนมลงไป แม้ว่าจะมีกรรมวิธีการชงคล้ายๆ กับลาเต้ แต่ก็มีอัตราส่วนของนมที่น้อยกว่าลาเต้ แต่จะมีชั้นฟองนมที่หนากว่า การดื่มกาแฟแบบคาปูชิโน่จะเป็นการดื่มด้วยการให้น้ำกาแฟไหลผ่านฟองนมด้านบน เพื่อให้ได้รสสัมผัสของทั้งความเข้มข้นจากกาแฟและความนุ่มนวลของฟองนม นอกจากนี้คาปูชิโน่จะมีการโรยผงโกโก้หรือผงอบเชยด้านบนฟองนมเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้กับกาแฟในขณะที่ดื่ม 

กาแฟดริปนั้นมีข้อแตกต่างชัดเจนจากคาปูชิโน่ในเรื่องของการใช้นมเป็นองค์ประกอบ โดยองค์ประกอบหลักของกาแฟดริปนั้นจะมีแค่กาแฟและน้ำเท่านั้น ดังนั้นจึงได้รสสัมผัสของเมล็ดกาแฟแบบเต็มๆ จะไม่มีความนุ่มนวลของนม หรือมีความครีมมี่ที่เกิดจากฟองนมเข้ามาเสริม แต่ทั้งนี้จึงทำให้กาแฟดริปนั้นให้พลังงานหรือแคลอรี่ที่ต่ำกว่า จึงทำให้กาแฟดริปเป็นเครื่องดื่มกาแฟทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการจะควบคุมน้ำหนักได้ดีอีกด้วย 

ทำไมกาแฟดริปจึงได้รับความนิยม

กาแฟดริปนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องใช้อุปกรณ์จำนวนมาก ใช้เพียงแค่เมล็ดกาแฟ ตัวกรอง ดริปเปอร์ และน้ำร้อน ก็สามารถดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟได้แล้ว ทำให้ชงจากที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องมีพื้นที่เยอะ วิธีดริปกาแฟก็ไม่ได้มีขั้นตอนที่ซับซ้อน ไม่ว่าใครก็สามารถชงได้ ตั้งแต่มือใหม่ต้องการชงกาแฟดื่มเองที่บ้าน ไปจนถึงบาริสต้าที่มีความเชี่ยวชาญในการชงกาแฟ 

กาแฟที่ได้จากการดริปกาแฟเองก็ยังมีรสชาติที่คลีน ไม่มีสิ่งเจือปน ช่วยให้ดึงคาแรคเตอร์ที่แท้จริงของเมล็ดกาแฟแต่ละสายพันธุ์ออกมาได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะกับเมล็ดกาแฟที่มีความเป็น Specialty Coffee ซึ่งถูกปลูกและคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน และมักจะมีราคาสูง การชงด้วยวิธีดริปกาแฟนั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้ชูรสชาติโดดเด่นของเมล็ดกาแฟนั้นๆ ออกมาได้อย่างเต็มที่ 

 

กาแฟดริป กับประโยชน์ที่มากกว่าแค่รสชาติ

 

กาแฟดริป กับประโยชน์ที่มากกว่าแค่รสชาติ

ประโยชน์ของกาแฟดริปนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของวิธีดริปกาแฟที่สามารถดึงรสชาติอันโดดเด่นของเมล็ดกาแฟออกมาได้ดีเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆ ที่เป็นผลดีต่อผู้ดื่มกาแฟดริปในเรื่องของสุขภาพด้วยเช่นกัน โดยประโยชน์ทางด้านสุขภาพจากการดื่มกาแฟดริปนั้น มีดังนี้

  • เพิ่มพลังงาน เนื่องจากกาแฟดริปนั้นมีส่วนประกอบของคาเฟอีนซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างความตื่นตัว ให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า อีกทั้งยังทำให้รู้สึกมีสมาธิ สามารถโฟกัสกับภารกิจต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือการเรียนหนังสือ
  • ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ในกาแฟดริปเองก็ยังมีส่วนผสมของ Antioxidants ซึ่งเป็นสารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ดังนั้นจึงชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายได้อีกด้วย  
  • เพิ่มสมรรถภาพทางกาย กาแฟดริปก็ยังมีส่วนกระตุ้นการหลั่งอะดรีนาลีนในร่างกาย จึงเป็นการเพิ่มสมรรถภาพ ทำให้มีความอึดมากขึ้น สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น โดยที่ไม่รู้สึกเหนื่อย หลายคนจึงเลือกที่จะดื่มกาแฟก่อนที่ออกกำลังกายประมาณ 30 นาที 
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง กาแฟดริปยังช่วยเพิ่มสารโดปามีนและนอร์เอพิเนฟริน ที่เป็นประโยชน์ต่อกระบวนการทำงานของสมอง โดยการกำจัดความเครียด อีกทั้งยังช่วยลดอาการสมาธิสั้นได้อีกด้วย 
  • บำรุงตับ กาแฟโดยปกติแล้วจะช่วยลดการสะสมของไขมันได้ อีกทั้งกาแฟดริปเองยังเป็นเครื่องดื่มที่ได้ชื่อว่ามีน้ำมันจากการคั่วกาแฟที่น้อย เพราะผ่านการกรองผ่านกระดาษฟิลเตอร์ที่ช่วยดักจับน้ำมันได้ จึงทำให้ลดการเกิดไขมันพอกตับได้ 
  • เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร กาแฟดริปนั้นจะมีกรดคลอโรเจนิกที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการย่อยอาหารได้ดีขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนเพิ่มการดูดซึมสารอาหารอย่าง แมกนีเซียมและโพแทสเซียม แต่ทั้งนี้จะต้องระมัดระวังในกลุ่มของผู้ที่ป่วยเป็นโรคกระเพาะเนื่องจากความเป็นกรดของกาแฟอาจจะทำให้เกิดอาการปวดแสบกระเพาะตามมาได้ อีกทั้งยังไม่ควรดื่มกาแฟตอนท้องว่าง 
  • ช่วยบำรุงหัวใจ มีงานวิจัยค้นพบว่าการดื่มกาแฟดริปก็ยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดในสมองได้ อีกทั้งยังช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมอีกด้วย
  • ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สำหรับหลายๆ คนแล้ว การดื่มกาแฟนั้นถือเป็นช่วงเวลาที่สมองและร่างกายได้ผ่อนคลายชั่วคราวจากสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะกับกาแฟดริปที่มีกรรมวิธีดริปกาแฟซึ่งจะต้องใช้ความพิถีพิถัน ทำให้หลายคนมองเป็นงานอดิเรกที่ช่วยผ่อนคลายในยามว่างไปในตัว

 

วิธีดริปกาแฟง่ายๆ ฉบับมือใหม่ก็ทำได้

 

วิธีดริปกาแฟง่ายๆ ฉบับมือใหม่ก็ทำได้

การดริปกาแฟนั้นทำได้ง่ายมากๆ โดยมีอุปกรณ์เพียงแค่ไม่กี่อย่างก็สามารถช่วยให้ได้ลิ้มรสชาติของเมล็ดกาแฟตัวโปรดจากกาแฟดริปได้ ซึ่งเราได้รวบรวมขั้นตอนของวิธีดริปกาแฟมาฝากกันด้วย รับรองได้เลยว่าถ้าอ่านแล้วเข้าใจก็สามารถดริปกาแฟตามกันได้ไม่ยาก แม้กระทั่งมือใหม่ก็ยังทำตามกันได้

วัตถุดิบ

สิ่งที่จำเป็นมากๆ สำหรับการชงกาแฟทุกประเภท ไม่ใช่แค่กาแฟดริปเพียงอย่างเดียวก็คือเมล็ดกาแฟนั่นเอง โดยเมล็ดกาแฟนั้นถือเป็นหัวใจหลักในการกำหนดรสชาติของกาแฟที่สามารถชงออกมาได้ เช่นเดียวกับกาแฟดริป การเลือกเมล็ดกาแฟที่เหมาะสมนั้นสามารถเลือกได้ทั้งแบบ Arabica และ Robusta แต่เราจะขอแนะนำให้เลือกเมล็ดกาแฟ Arabica เพราะมีความหอมและมีรสชาติให้เลือกมากมายกว่า 

นอกจากนี้ระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟสำหรับกาแฟดริปนั้น ควรจะเป็นแบบคั่วอ่อนไปจนถึงคั่วกลาง ซึ่งจะถือเป็นช่วงระดับการคั่วที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์และตัวตนของเมล็ดกาแฟชนิดนั้นๆ เอาไว้ได้มาก จึงเหมาะกับการดริปกาแฟที่จะค่อยๆ สกัดเอาจุดเด่นของเมล็ดกาแฟชนิดนั้นๆ ออกมาได้ สำหรับรูปแบบรสชาติของเมล็ดกาแฟนั้น สามารถเลือกได้ตามความชอบว่าจะเป็นกาแฟที่มี Taste Note แนวเปรี้ยวหวานสดชื่นแบบผลไม้ หอมหวานละมุนแบบดอกไม้ หรือหอมอ่อนๆ ผ่อนคลายแบบสมุนไพร

อุปกรณ์

วิธีดริปกาแฟนั้นทำได้ไม่ยาก อีกทั้งยังใช้อุปกรณ์ไม่กี่ชิ้น ซึ่งสามารถหาซื้อได้ง่ายดังนี้

  • ดริปเปอร์ (Dripper) จะมีลักษณะเป็นถ้วยมีรูซึ่งใช้สำหรับช่วยรองแผ่นกรองกาแฟดริป โดยจะมีรูปทรงทั้งหมด 4 แบบได้แก่ ทรงกรวย ทรงคางหมูหรือกรวยตัด ทรงถ้วย และทรง Origami นอกจากนี้วัสดุที่ใช้ในการผลิตดริปเปอร์สำหรับดริปกาแฟ ก็ยังมีให้เลือกตั้งแต่พลาสติกที่มีราคาถูก เซรามิกที่เก็บความร้อนได้ดี และสแตนเลสที่มีความแข็งแรงทนทาน 
  • กระดาษกรอง (Paper Filter) จะทำหน้าที่เป็นแผ่นกรองทั้งผงกาแฟและส่วนปะปนอื่นๆ จากกากกาแฟออกจากน้ำกาแฟ โดยมีให้เลือก 2 แบบคือ แบบไม่ฟอกสี ซึ่งจะมีสีน้ำตาล มีส่วนทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า แต่มักจะมีกลิ่นกระดาษที่ติดมาด้วย ทำให้จะต้องใช้น้ำร้อนในการล้างกลิ่นกระดาษออกหลายรอบ และแบบฟอกสี ซึ่งจะมีสีขาว จะไม่มีกลิ่นกระดาษมารบกวนกลิ่นของกาแฟดริป
  • โถรองดริป (Server) สำหรับวิธีดริปกาแฟนั้นจะมีต้องภาชนะรองดริปอยู่ด้านล่าง ทั้งนี้สามารถเลือกใช้ทั้งแบบแก้วที่มีลักษณะคล้ายเหยือกเพื่อความสะดวกในการเทหรือดูปริมาณน้ำ หรือจะใช้แก้วรองสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเสียเงินซื้อเหยือกเพิ่มก็ได้ 
  • กาดริป (Drip Kettle) เป็นตัวที่ช่วยในการเทน้ำร้อนให้ไหลผ่านผงเมล็ดกาแฟ โดยจะมีหลายประเภทแตกต่างกันไปตามวัสดุที่ใช้ เช่น สแตนเลส หรือเทฟลอน อีกทั้งยังมีความแตกต่างในเรื่องของด้ามจับที่มีทั้งแบบด้ามไม้ และด้ามพลาสติก นอกจากนี้ยังมีทั้งแบบที่ใช้วางบนเตาแก๊สเพื่อต้มน้ำ หรือจะใช้วางบนแท่นไฟฟ้าเพื่อทำการต้มน้ำก็ได้เช่นกัน ควรจะเลือกที่เหมาะสมและจับถนัดมือ เพื่อช่วยให้สามารถควบคุมการเทน้ำในขณะที่ดริปกาแฟได้ 
  • เครื่องบดเมล็ดกาแฟ (Coffee Grinder) การดริปกาแฟนั้นจะต้องใช้เมล็ดกาแฟที่ผ่านการบดแบบหยาบ จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องบดเมล็ดกาแฟ โดยมีให้เลือกทั้งแบบใบมีดเหล็กที่มีราคาถูกใช้งานง่าย แต่อาจจะบดได้ไม่ละเอียด ไปจนถึงแบบเฟืองบดที่มีทั้งแบบเฟืองเหล็กและเฟืองเซรามิก 
  • เครื่องชั่งดิจิทัล (Digital Scale) สำหรับกาแฟดริป อัตราส่วนของเมล็ดกาแฟและน้ำมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีเครื่องชั่งดิจิทัลที่มีความแม่นยำ สามารถวัดน้ำหนักของเมล็ดกาแฟตั้งแต่ก่อนทำการดริปกาแฟ ไปจนถึงระดับน้ำที่ใช้เทผ่านเมล็ดกาแฟในระหว่างที่ดริปกาแฟ ซึ่งเครื่องชั่งจะต้องมีความนิ่งเพื่อช่วยให้สามารถกำหนดปริมาณน้ำหนักได้อย่างเหมาะสม ช่วยควบคุมรสชาติของกาแฟดริปให้เป็นไปตามที่ต้องการได้ 

วิธีการดริปกาแฟ

หลังจากที่เตรียมอุปกรณ์สำหรับการดริปกาแฟให้พร้อมแล้ว ก็มาถึงในส่วนของวิธีดริปกาแฟที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ ตามขั้นตอนดังนี้

  1. ชั่งตวงน้ำหนักเมล็ดกาแฟให้เหมาะสมกับกาแฟดริป อัตราส่วนระหว่างเมล็ดกาแฟและน้ำที่สามารถเลือกสำหรับกาแฟดริปนั้นจะมีตั้งแต่แบบ 1:10 1:15 1:16 หรือ 1:17 แต่โดยพื้นฐานแล้วจะแนะนำให้เลือกแบบ 1:15 สำหรับมือใหม่ ซึ่งหมายถึงเมล็ดกาแฟ 10 กรัม ต่อน้ำ 150 มิลลิลิตร หรือเมล็ดกาแฟ 20 กรัม ต่อน้ำ 300 มิลลิลิตร เป็นต้น 
  2. บดเมล็ดกาแฟในระดับการบดที่ต้องการ ซึ่งระดับการบดก็จะมีความแตกต่างกันไปตามเครื่องบดกาแฟแต่ละแบบ แต่ควรจะต้องได้ผงเมล็ดกาแฟที่อยู่ในระดับหยาบไปจนถึงความละเอียดแบบปานกลางสำหรับกาแฟดริป
  3. เตรียมต้มน้ำสำหรับกาแฟดริปในอัตราส่วนที่กำหนด โดยกำหนดอุณหภูมิของน้ำให้ร้อนระดับ 92-95 องศาเซลเซียส
  4. ระหว่างที่ต้มน้ำก็ให้นำภาชนะรองซึ่งจะเป็นโถหรือแก้วรองกาแฟดริป ลงบนเครื่องชั่งดิจิทัล จากนั้นให้นำตัวดริปเปอร์ลงบนภาชนะรอง ก่อนจะตามด้วยกระดาษกรองลงไปบนดริปเปอร์ให้พอดี
  5. เมื่อน้ำร้อนตามอุณหภูมิที่ต้องการแล้ว ให้เทน้ำร้อนลงไปบนกระดาษกรองเปล่าๆ โดยที่ไม่ต้องใส่เมล็ดกาแฟลงไป เพื่อล้างกลิ่นของกระดาษ โดยจะต้องเทให้กระดาษนั้นเปียกจนทั่ว จากนั้นให้เทน้ำร้อนที่เกิดขึ้นจากการเทลงบนกระดาษทิ้งไป 
  6. ใส่เมล็ดกาแฟที่บดแล้วลงไปบนกระดาษกรอง โดยให้กาแฟนั้นรวมอยู่ตรงกลางเป็นเหมือนภูเขามากที่สุด ระวังไม่ให้เมล็ดกาแฟนั้นกระจายไปบริเวณอื่น เพราะจะทำให้ยากต่อการเทน้ำ
  7. การเทน้ำร้อนลงไปบนกาแฟดริปนั้นจะแบ่งเป็น 3 ช่วง ในช่วงแรกเราจะเรียกว่า Pre-infusion หรือการบลูมมิ่งกาแฟ ซึ่งจะเป็นการเทน้ำเพื่อให้กาแฟนั้นคายแก๊ส CO2 ออกมาเพื่อช่วยให้มีการสกัดรสชาติของกาแฟดริปได้ดีขึ้น โดยจะเทน้ำให้เมล็ดกาแฟนั้นเปียกจนทั่ว หรือให้ได้น้ำหนักประมาณ 20 กรัม จากนั้นให้จับเวลา 30 - 45 วินาที
  8. การเทในช่วงที่ 2 จะเป็นช่วงเร่งเทน้ำร้อนลงไปบนกาแฟให้ได้มากที่สุด เพื่อจะทำการสกัดกาแฟดริปออกจากเมล็ดกาแฟ โดยให้เทน้ำลงบนกาแฟประมาณ 60% - 70% ของน้ำทั้งหมดที่ใช้ หรือจนกว่าน้ำร้อนจะท่วมบนเมล็ดกาแฟในดริปเปอร์ซึ่งจะเห็นเป็นสีน้ำตาลทอง โดยให้เทน้ำร้อนอย่างรวดเร็ว จนสิ้นสุดนาทีที่ 2
  9. การเทในช่วงสุดท้าย จะเป็นการเทเพื่อรักษาอุณหภูมิเพื่อช่วยให้การสกัดกาแฟดริปนั้นมีความสมดุล เพื่อจะดึงคาแรคเตอร์ของเมล็ดกาแฟออกมาให้ได้มากที่สุด ให้ค่อยๆ เทจนสิ้นสุดนาทีที่ 2-3 
  10. รอจนกระทั่งกาแฟดริปนั้นถูกสกัดลงในภาชนะรองจนหมดก็สามารถยกออก และนำไปเสิร์ฟเพื่อดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟดริปได้อย่างเต็มที่ 

กาแฟดริป กับเคล็ดลับความอร่อย 

นอกจากการเข้าใจวิธีดริปกาแฟแล้ว ควรจะต้องรู้จักกับเคล็ดลับที่จะช่วยทำให้กาแฟดริปมีรสชาติที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งเคล็ดลับเหล่านี้ก็เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ควรระวังในขณะที่ทำการดริปกาแฟ 

  • ต้องไม่ให้กาแฟนั้นแห้งหรือขาดน้ำในระหว่างที่ทำการดริปกาแฟ โดยระหว่างตั้งแต่วินาทีแรกไปจนถึงสิ้นสุดการดริปกาแฟนั้นจะต้องให้มั่นใจว่าเมล็ดกาแฟสัมผัสกับน้ำร้อนอยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นกาแฟดริปที่ได้อาจจะมีรสชาติฝาด เฝื่อนหรือมีความขมผิดคาแรคเตอร์ของเมล็ดกาแฟได้
  • พยายามเทน้ำร้อนโดยการเริ่มจากตรงกลางแล้วหมุนออกสู่ข้างนอก เพราะวิธีการเทน้ำแบบนี้จะช่วยให้เมล็ดกาแฟทุกส่วนนั้นสัมผัสกับน้ำได้มากที่สุด
  • หลีกเลี่ยงการเทน้ำร้อนลงกระดาษกรองโดยตรง การเทน้ำร้อนเพื่อสกัดกาแฟดริปจะต้องเทลงบนเมล็ดกาแฟเท่านั้น ห้ามสัมผัสกับกระดาษกรองโดยเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้กลิ่นของกระดาษกรองนั้นกลบกลิ่นและรสชาติของกาแฟดริปได้ 
  • ป้องกันไม่ให้น้ำขังหรือทำให้กลายเป็นโคลนผงกาแฟ การสกัดกาแฟดริปที่ดีจะต้องอยู่ในช่วง 2-3 นาที ไม่ควรนานกว่านี้ ดังนั้นจึงจะต้องระมัดระวังไม่ให้มีการขังของน้ำบนกาแฟ ซึ่งวิธีการป้องกันนั้นสามารถทำได้จากการเลือกระดับเมล็ดกาแฟที่บด โดยจะต้องไม่หยาบจนเกินไปหรือละเอียดจนเกินไป 
  • น้ำจะต้องร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป เพื่อจะช่วยให้สามารถดึงรสชาติของเมล็ดกาแฟออกมาให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด
  • สำหรับคนที่ต้องการดื่มกาแฟดริปแบบเย็น หรือกาแฟดริปใส่น้ำแข็ง อาจจะเลือกวิธีดริปกาแฟแบบ Drip On Ice ซึ่งอาจจะต้องใช้อัตราส่วนที่มีกาแฟและน้ำน้อยลงไปหรือ 1:10 เพื่อป้องกันไม่ให้กาแฟดริปนั้นมีรสชาติยิ่งเจือจางเมื่อเจอกับน้ำแข็ง  

สรุป

จะเห็นได้ว่าการดื่มกาแฟสดสำหรับคนที่ไม่ต้องการดื่มกาแฟสำเร็จรูปนั้น ไม่จำเป็นต้องเข้าร้านกาแฟหรือซื้อเครื่องชงกาแฟใหญ่ๆ เสมอไป โดยการดริปกาแฟนั้นจัดว่าเป็นหนึ่งในวิธีการดื่มด่ำกับกาแฟสดได้ง่าย สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ขอเพียงแค่มีอุปกรณ์ดริปกาแฟไม่กี่ชิ้นอย่างครบถ้วน พร้อมเข้าใจวิธีดริปกาแฟ อัตราส่วนในการดริปกาแฟที่เหมาะสมก็เพียงพอแล้ว ที่สำคัญการดริปกาแฟก็ยังสามารถดึงรสชาติที่เป็นตัวตนแท้จริงของเมล็ดกาแฟได้ออกมาดีมากๆ กาแฟดริปที่ได้จึงมีความคลีนและความนุ่มนวล

ถ้าหากเป็นมือใหม่ที่สนใจจะลองดริปกาแฟเพื่อดื่มเอง หรือบาริสต้าที่มีความเชี่ยวชาญและเปิดร้านกาแฟของตัวเอง ทาง Peaberry Thai พร้อมให้บริการและดูแลตั้งแต่ขั้นตอนของการเลือกเมล็ดกาแฟที่มีหลากหลายสายพันธุ์ทั้งจากประเทศไทยและต่างประเทศ ตั้งแต่เกรดทั่วไปจนถึงเกรดพรีเมียม อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ต่างๆ เกี่ยวกับการชงกาแฟไม่ว่าจะเป็นการชงแบบกาแฟดริปหรือการชงแบบกาแฟเอสเปรสโซ รวมไปถึงการบริการให้คำปรึกษาเพื่อเลือกซื้อทั้งเมล็ดกาแฟและอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการใช้งานอีกด้วย 

แชร์