Key Takeaway
- การดริปกาแฟ คือการชงกาแฟด้วยการใช้อุปกรณ์สำหรับดริปกาแฟโดยเฉพาะ โดยใช้น้ำร้อนเทผ่านผงกาแฟคั่วบดที่อยู่บนแผ่นกระดาษกรอง เพื่อให้น้ำสกัดเอารสชาติของกาแฟออกมา
- ควรเตรียมอุปกรณ์ดริปกาแฟให้พร้อมก่อนเสมอ Kalita มีชุดเครื่องดริปกาแฟแบบครบครัน ตัวดริปเปอร์มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยให้การไหลของน้ำกาแฟเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดจากเมล็ดกาแฟ
- นอกจากอุปกรณ์ดริปกาแฟแล้ว ควรทำความเข้าใจการดริปกาแฟก่อน เพราะการดริปกาแฟ ต้องใช้เทคนิคทั้งการบดเมล็ดกาแฟ การใช้อุณหภูมิของน้ำ รวมถึงการเทน้ำให้ถูกวิธี เพื่อให้ได้รสชาติของกาแฟที่เหมาะสม
- Peaberry Thai มีเมล็ดกาแฟหลากหลายสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยม อุปกรณ์ดริปกาแฟครบครัน ที่ช่วยให้คุณดริปกาแฟได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ใช้งานได้ทุกที่ ดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟได้ในทุกบรรยากาศ
ไม่ว่าคอกาแฟมือเก่าหรือมือใหม่ ในการชงกาแฟดื่มเองแต่ละครั้ง ต่างก็อยากได้รสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟที่ลงตัวมากที่สุด ทำให้การดริปกาแฟจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีการชงกาแฟที่คอกาแฟหลายคนต่างนิยม เพราะเป็นการชงที่ดึงเอาเอกลักษณ์ของแต่ละเมล็ดกาแฟได้ดีกว่าการชงแบบทั่วไป
บทความนี้จะแนะนำอุปกรณ์ทำกาแฟดริปว่ามีอะไรบ้าง ทั้งแบบดริปปกติกับเครื่องดริปไฟฟ้า พร้อมวิธีเลือกให้เหมาะกับสไตล์การชงของคุณ เพื่อดื่มด่ำกับประสบการณ์การดื่มกาแฟที่เข้ากับตัวคุณมากที่สุด
การดริปกาแฟ ศิลปะแห่งการดื่มกาแฟ ทำไมถึงได้รับความนิยม?
การดริปกาแฟ คือการชงกาแฟด้วยการใช้อุปกรณ์สำหรับดริปกาแฟโดยเฉพาะ โดยใช้น้ำร้อนเทผ่านผงกาแฟคั่วบดที่อยู่บนแผ่นกระดาษกรอง เพื่อให้น้ำสกัดเอารสชาติของกาแฟออกมา โดยรสชาติของกาแฟที่ได้จะแตกต่างกันออกไปตามรูปแบบการคั่วของเมล็ดกาแฟ อุณหภูมิน้ำ เวลาที่ใช้สกัด รวมถึงระดับการบดเมล็ดกาแฟ
ด้วยความโดดเด่นเหล่านี้ ทำให้การดริปกาแฟเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งการชงตามคาเฟ่ต่างๆ การชงดื่มที่ทำงาน หรือที่บ้าน เพราะการดริปกาแฟ มีความพิถีพิถันในการชงมากกว่าการชงกาแฟทั่วไป อีกทั้งเป็นวิธีการชงที่ดึงเอาความหอมของเมล็ดกาแฟ ช่วยให้ได้สัมผัสของรสชาติกาแฟที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์นั่นเอง
อุปกรณ์ดริปกาแฟที่สำคัญ มีอะไรบ้าง
ก่อนที่จะเริ่มต้นดริปกาแฟ ควรเตรียมอุปกรณ์ดริปกาแฟให้พร้อมก่อนเสมอ โดยอาจเลือกอุปกรณ์ชงกาแฟตามงบประมาณที่มี หรือเลือกจากแบรนด์ที่มีคุณภาพอย่าง Kalita มีชุดเครื่องดริปกาแฟแบบครบครัน ตัวดริปเปอร์มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยให้การไหลของน้ำกาแฟเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดจากเมล็ดกาแฟ พร้อมวัสดุคุณภาพสูง ทนทาน เก็บความร้อนได้ดี ช่วยให้การดริปกาแฟเพลินมากยิ่งขึ้น โดยอุปกรณ์สำหรับทำกาแฟดริปที่คุณควรต้องเตรียม มีดังนี้
1. ดริปเปอร์ (Dripper)
ดริปเปอร์เป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญในการดริปกาแฟ โดยดริปเปอร์ผลิตจากวัสดุหลากหลาย เช่น แก้ว เซรามิก หรือสเตนเลส สำหรับใช้ในการรักษาอุณหภูมิความร้อนที่ต่างกัน และผลิตออกมาให้อยู่ในรูปทรงกรวย เพื่อให้การไหลของน้ำดียิ่งขึ้น ตัวดริปเปอร์จะใช้คู่กับกระดาษกรองหรือแผ่นกรองเพื่อสกัดน้ำกาแฟนั่นเอง สำหรับดริปเปอร์ที่นิยมใช้ แบ่งเป็น 4 ประเภท ดังนี้
- ดริปเปอร์ทรงกรวย หรือเรียกกันว่าทรง V60 ที่เป็นทรงกรวยตัววี (V) มีมุมเอียงอยู่ที่ 60 องศา โดยด้านบนมีความกว้าง แต่ด้านล่างเป็นปลายแหลมและมีช่องว่าง และเป็นแนวเกลียวอยู่ด้านใน จึงเป็นถ้วยกาแฟดริปที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะสามารถควบคุมการเทน้ำไม่ให้เร็วหรือช้าเกินไป ทำให้น้ำสัมผัสกับผงกาแฟได้อย่างทั่วถึง ช่วยดึงรสชาติกาแฟที่ละมุน และทำให้ได้กลิ่นหอมของกาแฟได้ชัดเจน
- ดริปเปอร์ทรงคางหมู คือถ้วยกาแฟดริปที่มีลักษณะคล้ายทรงกรวย แต่ต่างกันที่มีส่วนปลายแคบเป็นเส้นตรง และมีรูขนาดเล็กอยู่ที่ส่วนปลาย ทำให้น้ำค่อยๆ ซึมผ่านผงกาแฟ และไหลออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ ได้รสชาติของกาแฟที่คงที่ มีรสหวานกำลังดี เนื้อสัมผัสละมุน และไม่เปรี้ยวเกินไป
- ดริปเปอร์ทรงตะกร้า คือดริปเปอร์ที่มีด้านบนเป็นทรงกรวย แต่ด้านล่างเป็นลักษณะก้นแบนเรียบๆ คล้ายตะกร้า มี 3 รูระบายน้ำ ด้านในของถ้วยกาแฟดริปไม่มีแนวเกลียวหรือร่องน้ำ ทำให้น้ำสามารถไหลผ่านผงกาแฟได้รวดเร็ว จึงช่วยลดความเข้มของกาแฟไม่ให้มีรสชาติขม แต่ช่วยดึงรสชาติความหวานของกาแฟ ให้ได้รสสัมผัสกำลังดี และรสชาติกาแฟไม่ซับซ้อน
- ดริปเปอร์ทรงโอริกามิ (Origami) เป็นถ้วยกาแฟดริปที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการพับกระดาษของญี่ปุ่น มีลักษณะคล้ายดริปเปอร์ทรงกรวย แต่ฐานด้านล่างจะเป็นปลายตัด พื้นผิวด้านในเป็นเส้นตรงคล้ายรางน้ำพับต่อกับ 20 ช่อง ทำให้ควบคุมความเร็วในการเทน้ำที่ไม่ช้าหรือไม่เร็วเกินไป ช่วยให้ได้กาแฟที่มีคุณภาพ มีกลิ่นหอมและได้รสชาติตามต้องการ
2. กระดาษกรอง (Paper Filter)
กระดาษกรองหรือฟิลเตอร์ คือ อุปกรณ์ดริปกาแฟที่ใช้คู่กับดริปเปอร์ ที่ช่วยสกัดและกรองผงกาแฟไม่ให้ลงไปปนกับน้ำกาแฟ และช่วยดักน้ำมันกาแฟ ทำให้ได้รสชาติกาแฟที่หอมละมุนมากยิ่งขึ้น โดยขนาดของกระดาษกรองมีให้เลือกตั้งแต่ 1-4 Cup ตามขนาดและรูปแบบของดริปเปอร์ ซึ่งกระดาษกรองมีให้เลือกหลักๆ 2 ประเภท ดังนี้
- กระดาษกรองสีขาว คือกระดาษกรองที่ผ่านการฟอกสี โดยใช้คลอรีนหรือออกซิเจนเพื่อให้กระดาษกลายเป็นสีขาว อีกทั้งเป็นกระดาษกรองที่ไม่มีกลิ่นกระดาษ จึงทำให้ไม่ส่งผลต่อกลิ่นและรสชาติของกาแฟ
- กระดาษกรองน้ำตาล คือ กระดาษกรองที่ไม่ผ่านการฟอกสี มีการแปรรูปน้อยกว่ากระดาษกรองสีขาว จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า ในส่วนของการใช้งาน อาจมีกลิ่นกระดาษหลงเหลืออยู่ จึงจำเป็นต้องลวกกระดาษด้วยน้ำร้อนก่อน เพื่อไม่ให้กลิ่นกระดาษรบกวนรสชาติของกาแฟ
3. เครื่องบดเมล็ดกาแฟ (Coffee Grinder)
ความละเอียดของเมล็ด ส่งผลต่อรสชาติกาแฟโดยตรง และทำให้ได้รสชาติของกาแฟที่ต่างกัน ทำให้เครื่องบดเมล็ดกาแฟเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญในการทำกาแฟดริปที่ควรต้องเตรียมให้พร้อม โดยเครื่องบดกาแฟที่นิยมใช้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- เครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุน เป็นเครื่องบดกาแฟขนาดเล็ก พกพาสะดวก เลือกบดเมล็ดกาแฟได้ตามความละเอียดที่ต้องการ ในการใช้งานต้องมีความพิถีพิถันและความชำนาญการในบด เพราะหากบดหยาบหรือบดละเอียดมากเกินไป จะส่งผลต่อรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟได้
- เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้า เป็นเครื่องบดกาแฟที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องออกแรงหมุนหรือใช้ความชำนาญในการบด เพียงแค่นำเมล็ดกาแฟใส่เครื่องบด จากนั้นเลือกปรับความหยาบหรือความละเอียดได้ตามต้องการ เป็นอุปกรณ์ดริปกาแฟที่ช่วยทุ่นเวลา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสะดวกสบายหรือความรวดเร็วในการใช้งาน
4. โถรองดริป (Server)
โถรองดริป คืออีกหนึ่งอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการทำกาแฟดริป ทำหน้าที่รองรับน้ำกาแฟที่ถูกสกัดจากถ้วยกาแฟดริปหรือดริปเปอร์ ส่วนมากโถรองดริป ทำมาจากจากวัสดุที่เป็นแก้วใส มีลักษณะคล้ายโถเหยือก ที่ช่วยให้เทกาแฟใส่แก้วได้ง่ายขึ้น อีกทั้งวัสดุที่เป็นแก้วใส ยังช่วยรักษาความร้อนของกาแฟให้คงที่ และช่วยให้เห็นน้ำกาแฟที่หยดลงมาได้อย่างชัดเจน
5. กาดริปกาแฟ (Drip Kettle)
กาดริปกาแฟ คือกาน้ำที่ใช้ในการเทน้ำร้อนลงไปในดริปเปอร์ ส่วนมากผลิตจากวัสดุสเตนเลสเพื่อรักษาอุณหภูมิให้คงที่ โดยกาสำหรับดริปกาแฟจะมีรูปากและคอที่เล็กเรียวเป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้เทควบคุมปริมาณน้ำและความเร็วของน้ำได้ง่าย ซึ่งกาดริปกาแฟแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- กาดริปไฟฟ้า เป็นกาที่นิยมใช้ดริปกาแฟมากกว่า เพราะใช้งานง่าย ต้มน้ำร้อนได้เร็ว เลือกตั้งอุณหภูมิน้ำได้ตามต้องการ และกาน้ำให้ความร้อนได้สม่ำเสมอ ช่วยประหยัดเวลาในการดริปกาแฟแต่ละครั้งได้เป็นอย่างดี
- กาดริปธรรมดา เป็นกาน้ำที่ไม่สามารถต้มให้ร้อนได้ด้วยตนเอง แต่ต้องใช้น้ำร้อนจากหม้อต้มอื่นๆ เพื่อมาเทใส่ในกาดริป และจำเป็นต้องมีเทอร์โมมิเตอร์ เพื่อใช้ในการวัดอุณหภูมิของน้ำร้อน เพราะเมื่อน้ำร้อนจากกาไฟฟ้าถูกเปลี่ยนมาเป็นกาธรรมดา จะทำให้อุณหภูมิของน้ำลดลง และส่งผลต่อรสชาติและกลิ่นของกาแฟได้ ดังนั้นการใช้กาดริปกาแฟธรรมดา จึงอาจเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากและช้ากว่ากาดริปไฟฟ้า
6. เทอร์โมมิเตอร์ (Thermometer)
เทอร์โมมิเตอร์ หรือ ก้านวัดอุณหภูมิ เป็นอุปกรณ์ที่มักใช้คู่กับกาดริปกาแฟแบบธรรมดา เพราะกาดริปกาแฟธรรมดาไม่มีตัวบอกอุณหภูมิ จึงจำเป็นต้องมีเทอร์โมมิเตอร์มาใช้ในการวัด เพื่อไม่ให้รสชาติของกาแฟมีรสเปรี้ยวหรือขมมากเกินไป เช่น กาแฟคั่วอ่อนใช้อุณหภูมิประมาณ 88-90°C กาแฟคั่วกลางใช้อุณหภูมิประมาณ 90-92°C และกาแฟคั่วเข้มใช้อุณหภูมิประมาณ 92-94°C เป็นต้น
7. เครื่องชั่งดิจิทัล (Digital Timer Scale)
เครื่องชั่งกาแฟดิจิทัลหรือตาชั่งกาแฟ เป็นอุปกรณ์ดริปกาแฟที่ช่วยคำนวณอัตราส่วนของผงกาแฟและน้ำได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้รสชาติของกาแฟที่เหมาะสม โดยตัวเครื่องมีลักษณะคล้ายตาชั่งทั่วไป แต่จะมีขนาดเล็กกว่าเพื่อให้ใช้งานกับพื้นที่ชงกาแฟได้อย่างเหมาะสม
ครื่องชั่งกาแฟบางรุ่นมีตัวช่วยจับเวลาในการสกัดกาแฟ จึงทำให้ดริปกาแฟแต่ละแก้วได้ง่ายขึ้น อย่างเช่น Acaia เครื่องชั่งกาแฟดิจิทัล ที่เป็นทั้งเครื่องชั่งน้ำหนักและตัวจับเวลาอัจฉริยะ มีหลายฟังก์ชันให้เลือกใช้งาน ทั้งการชั่งน้ำหนักผงกาแฟ เพื่อให้คำนวณผงกาแฟได้ง่ายขึ้น การคำนวณการไหลของน้ำให้เหมาะสมกับการสกัดกาแฟ รวมถึงการจับเวลาอัตโนมัติเมื่อน้ำกาแฟไหลลงสู่แก้วเพื่อให้ได้รสชาติของกาแฟที่สมบูรณ์มากขึ้น
4 เทคนิคสำคัญ สำหรับนักดริปกาแฟ
ในการชงกาแฟดริป ไม่ใช่เพียงแค่ต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับดริปกาแฟให้พร้อมเท่านั้น แต่ควรต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการดริปกาแฟก่อน เพราะการดริปกาแฟ ต้องใช้ความละเอียดอ่อนและความประณีต ทั้งการบดเมล็ดกาแฟ การใช้อุณหภูมิของน้ำ รวมถึงการเทน้ำให้ถูกวิธี เพื่อให้ได้รสชาติของกาแฟที่เหมาะสม โดยแต่ละเทคนิคมีรายละเอียดดังนี้
1. ไม่บดเมล็ดกาแฟละเอียดเกินไป
เทคนิคสำคัญในการบดเมล็ดกาแฟให้ได้ความละเอียดที่เหมาะสม คือการใช้เครื่องบดเมล็ดกาแฟโดยเฉพาะ ทั้งเครื่องบดกาแฟมือหมุนหรือแบบไฟฟ้า จะทำให้ได้เมล็ดกาแฟที่ละเอียดคล้ายน้ำตาลทรายขาว และไม่หยาบหรือไม่ละเอียดเกินไป ที่เมื่อเทน้ำแล้ว น้ำสามารถผ่านผงกาแฟ กระดาษกรอง และถ้วยดริปกาแฟ และสกัดออกมาเป็นกาแฟที่รสชาติกลมกล่อม และมีความหอมเฉพาะตัว ต่างจากการบดกาแฟที่หยาบหรือละเอียดมากเกินไป ก็จะทำให้กาแฟมีรสขม ฝาด หรือเปรี้ยวมากเกินไป
2. ควรเทน้ำให้ทั่วกาแฟ
เนื่องจากรูปากและคอของกาที่ใช้ดริปกาแฟมีขนาดเรียวและเล็ก ที่ทำให้เทน้ำได้อย่างพิถีพิถันมากขึ้น ซึ่งสามารถใช้การเทคนิคการเทที่เริ่มจากเทน้ำจากตรงกลาง แล้วค่อยวนออกเป็นวงกลม และควรเทน้ำให้สม่ำเสมอและทั่วกาแฟ เพราะเมื่อน้ำโดนกาแฟส่วนไหน กาแฟส่วนนั้นก็ถูกจะสกัดออกมา หากเทไม่เท่ากันจะทำให้รสชาติของกาแฟเปลี่ยน จึงจำเป็นต้องเทน้ำให้เท่ากันเพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่เหมาะสม
3. ไม่ควรเทน้ำลงแผ่นกรองโดยตรง
อุปกรณ์ดริปกาแฟอย่างฟิลเตอร์หรือแผ่นกรองบางประเภทอาจมีกลิ่นของกระดาษอยู่ หากเทน้ำลงแผ่นกรอง จะทำให้กลิ่นกระดาษปนมากับกาแฟ และทำให้กาแฟเสียรสชาติได้ จึงไม่ควรเทน้ำลงแผ่นกรอง แต่ให้เทน้ำให้โดนกาแฟโดยรอบแทน เพื่อให้น้ำร้อนสามารถสกัดความหอมและรสชาติของกาแฟได้โดยตรง
4. อุณหภูมิสำคัญมาก
อุณหภูมิของน้ำร้อนส่งผลต่อรสชาติของกาแฟที่สกัด เพราะเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยน รสชาติของกาแฟก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย โดยอุณหภูมิน้ำที่เหมาะกับการทำกาแฟดริปอยู่ที่ประมาณ 88-94 °C ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟด้วย
ดังนั้น การต้มน้ำเพื่อดริปกาแฟ ควรเลือกใช้กาดริปกาแฟที่สามารถบอกอุณหภูมิของน้ำร้อนได้ ก็จะทำให้รู้ว่าอุณหภูมิของน้ำตอนนี้ เหมาะกับการใช้สกัดกาแฟแล้วหรือยัง เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่กลมกล่อม หอมเป็นธรรมชาติ หากไม่มีกาดริปกาแฟแบบไฟฟ้า ก็สามารถใช้ก้านวัดอุณหภูมิแทนได้เช่นกัน
สรุป
ศาสตร์แห่งการดริปกาแฟ ไม่ใช่เป็นการเทน้ำใส่กาแฟแล้วจบ แต่การดริปกาแฟนั้น ต้องมีกระบวนการมากมายถึงจะได้สกัดออกมาเป็นกาแฟ 1 แก้ว ซึ่งสิ่งสำคัญในการดริปกาแฟ ที่คอกาแฟ มือเก่าหรือใหม่ ควรต้องรู้ คือ การเตรียมพร้อมในเรื่องของอุปกรณ์สำหรับดริปกาแฟ เพราะหากขาดอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง กาแฟแก้วนั้น ก็อาจจะไม่ใช่กาแฟดริปที่สมบูรณ์ โดยแต่ละอุปกรณ์ในการทำกาแฟดริปหลักๆ ที่ควรต้องมี คือ ดริปเปอร์ กระดาษกรอง เครื่องบดเมล็ดกาแฟ โถรองดริป และกาดริปกาแฟ ที่มีให้เลือกหลายรูปแบบตามความต้องการไม่ว่าคุณจะเป็นคอกาแฟที่ชื่นชอบการดริปกาแฟแบบไหน Peaberry Thai มีเมล็ดกาแฟหลากหลายสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยม ที่ช่วยให้คุณรังสรรค์รสชาติของกาแฟได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ดริปกาแฟครบครัน ที่ช่วยให้คุณดริปกาแฟได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ใช้งานได้ทุกที่ ไม่ว่าจะที่บ้าน ที่ทำงาน หรือการไปตั้งแคมป์ ที่ทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟได้ในทุกบรรยากาศ