Key Takeaway
- กากกาแฟคือเศษกาแฟที่เหลือหลังจากการสกัดกาแฟ ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์อย่างอื่นต่อได้
- การตากแห้งกากกาแฟก่อนเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อป้องกันความชื้นและเชื้อรา ซึ่งจะช่วยให้การใช้กากกาแฟในภายหลังมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น โดยสามารถทำได้ 2 วิธี คือ การตากแดด และนำไปเข้าไมโครเวฟ
- ประโยชน์ของกากกาแฟแต่ละด้าน เช่น การดับกลิ่นในตู้เย็นหรือรองเท้า ใช้ทำความสะอาดเขียงและกระทะ ปรับสภาพดินและเป็นปุ๋ย หรือสครับผิวและลดเซลลูไลท์ เป็นต้น
กากกาแฟที่เหลือจากการสกัดกาแฟไม่ควรถูกทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ เพราะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่การทำสวนไปจนถึงการทำความสะอาด ลองมาดูกันว่ากากกาแฟมีประโยชน์อะไรบ้างในบทความ
กากกาแฟ ของเหลือจากการสกัดกาแฟ
กากกาแฟ คือ ส่วนที่เหลือจากการสกัดกาแฟ ซึ่งได้มาจากกระบวนการทำกาแฟและผ่านการชงในเครื่องชงกาแฟ กากกาแฟประกอบด้วยเนื้อกาแฟที่ไม่ละลายในน้ำและสารตกค้างที่เหลือจากการสกัดรสชาติและกลิ่นของกาแฟ
วิธีเตรียมกากกาแฟก่อนนำมาใช้ประโยชน์
การตากแห้งกากกาแฟก่อนเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อป้องกันความชื้นและเชื้อรา ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1. นำกากกาแฟไปตากแดด
- สะเด็ดน้ำออกจากกากกาแฟให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้มีน้ำค้างอยู่
- นำกากกาแฟมาวางบนตะแกรง หรือถาดรองเพื่อให้กากกาแฟกระจายกัน และแห้งทั่วถึง
- ตากแดดตรงๆ โดยการวางในที่ที่มีแสงแดดจัด เพื่อให้การระเหยน้ำออกได้เร็ว
- ตรวจสอบกากกาแฟเป็นระยะๆ และพลิกกลับเพื่อให้แห้งอย่างทั่วถึง
- หลังจากแห้งแล้ว ให้นำไปเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท และเก็บในที่แห้ง เพื่อป้องกันความชื้นที่อาจทำให้เกิดเชื้อรา
2. นำกากกาแฟไปเข้าไมโครเวฟ
- นำกากกาแฟที่สะเด็ดน้ำออกแล้วใส่ในภาชนะที่ใช้สำหรับไมโครเวฟที่ปลอดภัย
- พลิกกากกาแฟให้กระจายทั่วถึง และไมโครเวฟที่อุณหภูมิสูง (ประมาณ 2-3 นาที) เพื่อลดความชื้น
- หลังจากนั้นนำออกมาให้เย็น ก่อนเก็บในภาชนะที่ปิดสนิทและเก็บในที่แห้ง เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา
กากกาแฟเหลือเอาไปทำอะไรได้บ้าง ไอเดียรีไซเคิลง่ายๆ
กากกาแฟที่เหลือจากการสกัดเอาน้ำกาแฟออกมานั้นสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้หลายด้าน มาดูกันว่ามีวิธีการใช้งานแบบไหนบ้าง ดังนี้
ประโยชน์ของกากกาแฟด้านดับกลิ่น
กากกาแฟมีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นได้ดีเยี่ยม ทำให้สามารถนำไปใช้ดับกลิ่นได้ดังนี้
- ดับกลิ่นในตู้เย็น ควรนำกากกาแฟใส่ถ้วยแล้ววางไว้ในตู้เย็น ซึ่งกากกาแฟจะช่วยดูดซับกลิ่นอาหารได้ และควรเปลี่ยนกากกาแฟทุกสัปดาห์เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นชื้นกลับมาอีก
- ดับกลิ่นในตู้เสื้อผ้า เพียงใส่กากกาแฟในถุงผ้า หรือภาชนะที่เปิดอยู่แล้ววางไว้ในตู้เสื้อผ้า กากกาแฟจะช่วยดับกลิ่น และดูดซับกลิ่นอับจากผ้าได้
- ดับกลิ่นในรองเท้า ใส่กากกาแฟในถุงผ้าขนาดเล็ก หรือใส่ในถ้วยเล็กๆ แล้ววางไว้ในรองเท้า กากกาแฟจะดูดซับกลิ่นเหม็นอับจากเหงื่อในรองเท้า
- ดับกลิ่นกระเทียมติดมือ ถูมือกับกากกาแฟที่แห้ง จะช่วยดูดซับกลิ่นที่ติดมือได้ หลังจากนั้นล้างมือด้วยน้ำสะอาดเพื่อขจัดกากกาแฟออกไป
ประโยชน์ของกากกาแฟสำหรับห้องครัว
กากกาแฟมีประโยชน์มากมายในครัว เราสามารถใช้กากกาแฟเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลครัวได้อย่างดีเยี่ยม ดังนี้
- ใช้ล้างทำความสะอาดเขียง ใช้กากกาแฟโรยบนเขียงแล้วขัดด้วยฟองน้ำ หรือแปรง จากนั้นล้างน้ำให้สะอาด และเช็ดแห้ง กากกาแฟช่วยขจัดกลิ่นและคราบได้ดี
- หมักเนื้อให้นุ่ม ผสมกากกาแฟกับเครื่องเทศแล้วหมักเนื้อไว้ในตู้เย็น กากกาแฟจะช่วยให้เนื้อนุ่มและเพิ่มรสชาติ
- ไล่มดไม่ให้ขึ้นตู้กับข้าว โรยกากกาแฟรอบๆ บริเวณที่มดมักขึ้น กากกาแฟจะช่วยไล่มดออกจากพื้นที่นั้นๆ ได้
- ลดความฟุ้งของขี้เถ้าจากเตาถ่าน โรยกากกาแฟลงบนขี้เถ้าจะช่วยลดการฟุ้งของขี้เถ้าได้ เพราะกากกาแฟจะช่วยจับขี้เถ้าไม่ให้ปลิวขึ้นไปในอากาศ
- ขัดคราบไหม้ที่กระทะหรือหม้อ นำกากกาแฟไปขัดที่บริเวณที่มีคราบไหม้แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยขจัดคราบไหม้ได้ดี
- ช่วยแก้ไขท่ออ่างล้างจานตัน เทกากกาแฟลงไปในท่อ แล้วตามด้วยน้ำร้อนเพื่อช่วยขจัดการอุดตัน เนื่องจากกากกาแฟมีความสามารถในการดูดซับไขมันและสิ่งสกปรก
ประโยชน์ของกากกาแฟกับการดูแลบ้าน
ข้อดีของกากกาแฟในการดูแลบ้านเป็นเรื่องง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างของการใช้กากกาแฟในครัวมีดังนี้
- ช่วยดักจับและไล่แมลง ใส่กากกาแฟในภาชนะเล็กๆ แล้ววางไว้ในที่แมลงมักเข้ามา หรือโรยกากกาแฟรอบๆ พื้นที่ที่ต้องการไล่แมลง
- ลบรอยขีดข่วนที่เฟอร์นิเจอร์ ใช้กากกาแฟผสมกับน้ำมันมะพร้าว หรือว่านหางจระเข้ ทาบางๆ บนรอยขีดข่วนแล้วเช็ดออกเบาๆ จะทำให้รอยขีดข่วนจะจางลง
- ใช้ในการฝึกสัตว์เลี้ยง นำกากกาแฟไปโรย หรือวางไว้ที่บริเวณที่ไม่ต้องการให้สัตว์เลี้ยงเข้าไป เช่น บริเวณที่สัตว์เลี้ยงชอบแอบไปขับถ่าย
- บำรุงดอกไม้ในแจกัน ลองเปลี่ยนจากการใช้เพียงน้ำธรรมดา มาใช้ดินผสมกากกาแฟในแจกันแทน วิธีนี้จะช่วยคงความสดใหม่ของดอกไม้
- นำไปใช้ทำปุ๋ย การผสมกากกาแฟกับดินปรับความเป็นกรด-เบสให้เหมาะสมต่อพืช อีกทั้งยังมีสารอาหารที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช
ประโยชน์ของกากกาแฟกับความสวยงาม
คุณสมบัติของกากกาแฟในการดูแลความสวยงามมีหลายอย่างที่น่าสนใจ ดังนี้
- นำไปสครับผิว นำกากกาแฟที่ตากแห้งแล้วมาผสมกับน้ำนมหรือครีมใช้ขัดผิว 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
- ลดเซลลูไลท์ ให้นำกากกาแฟผสมดินหรือน้ำมันมะพร้าวแล้วขัดบริเวณที่มีเซลลูไลท์เป็นเวลา 10 นาที สัปดาห์ละสองครั้ง จะช่วยลดการเกิดเซลลูไลท์
- บำรุงผมที่เสีย นำกากกาแฟมานวดบนหนังศีรษะประมาณ 1 นาที แล้วล้างออก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มอัตราการเติบโตของเส้นผม
- แก้ขอบตาคล้ำ ผสมกากกาแฟกับน้ำเปล่าและน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อยให้เป็นครีมเข้มข้น ทาบริเวณขอบตาทิ้งไว้ 10 นาที
- ลดปากคล้ำ สามารถนำกากกาแฟมาผสมกับน้ำผึ้ง ทำเป็นมาส์กปากเพื่อบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก และมีสีที่สดใสขึ้นได้
ประโยชน์ของกากกาแฟกับงานศิลปะ
กากกาแฟไม่เพียงแต่มีประโยชน์ในครัวเรือนและการดูแลความสวยงามเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้ในงานศิลปะได้ด้วย ไปดูกันว่าเอาไปทําอะไรได้บ้าง
- สีย้อมธรรมชาติ เพียงเตรียมกากกาแฟและน้ำร้อน ก็สามารถใช้สีย้อมนี้ในการย้อมผ้าหรือกระดาษ เพื่อสร้างสีธรรมชาติและมีเอกลักษณ์ได้
- ทำงาน D.I.Y กากกาแฟสามารถนำมาใช้ในงานประดิษฐ์ได้หลายรูปแบบ เช่น การทำสบู่ กรอบรูป เครื่องประดับตกแต่ง และแก้ว ช่วยสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีเอกลักษณ์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สรุป
กากกาแฟคือเศษกาแฟที่เหลือจากการสกัดกาแฟ โดยร้านกาแฟมักมีการผลิตกากกาแฟเหลือจากการทำกาแฟทุกวัน แนะนำให้นำกากกาแฟไปตากแห้งเพื่อเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในหลากหลายด้าน เช่น การทำปุ๋ย การดับกลิ่น หรือการใช้ในงานศิลปะ
อย่าลืมใส่ใจทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกเมล็ดกาแฟจนถึงการนำกากกาแฟมาใช้ใหม่แนะนำให้ลองเมล็ดกาแฟ Pacamara จาก Peaberry Thai สำหรับรสชาติที่ยอดเยี่ยม