Key Takeaway
- การล้างเครื่องชงกาแฟถูกวิธี ช่วยป้องกันการสะสมของคราบกาแฟและน้ำมัน ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจทำให้เกิดการอุดตัน และส่งผลเสียต่อรสชาติและประสิทธิภาพของเครื่อง
- Urnex จาก Peaberry Thai ช่วยทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟได้หมดจด ถนอมเครื่องและอุปกรณ์ พร้อมให้รสชาติกาแฟที่ดีเยี่ยม
เพื่อให้แน่ใจว่ากาแฟทุกถ้วยที่ชงจะเต็มไปด้วยรสชาติที่ดี ในบทความนี้เราจะแนะนำวิธีล้างเครื่องชงกาแฟให้สะอาด รวมถึงเคล็ดลับในการรักษาเครื่องชงกาแฟให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เหตุผลที่ควรล้างเครื่องชงกาแฟตามวิธีที่ถูกต้อง
การล้างเครื่องชงกาแฟตามวิธีที่ถูกต้อง จะช่วยขจัดคราบกาแฟและน้ำมันออกไปได้ ซึ่งคราบเหล่านี้หากล้างออกไม่สะอาด อาจทำให้รสชาติกาแฟเสียและลดประสิทธิภาพของเครื่อง นอกจากนี้ยังป้องกันการอุดตันของท่อและตัวกรอง รวมถึงขจัดแบคทีเรียและเชื้อโรค
การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอช่วยให้เครื่องทำงานได้ดีและรักษาสุขภาพของผู้ใช้ และยืดอายุการใช้งานของเครื่องชงกาแฟได้
ถอดชิ้นส่วนเครื่องชงกาแฟ ก่อนทำความสะอาดได้อย่างไร
วิธีทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟเริ่มจากปิดเครื่องและถอดปลั๊ก ถอดแท็งก์น้ำออกแล้วล้างทำความสะอาด จากนั้นจึงค่อยถอดตัวกรองกาแฟและกรวยชงนำมาล้างด้วยน้ำร้อน ใช้แปรงในการขัดทำความสะอาดกรวยชง ส่วนสุดท้ายคือการถอดถาดรองหยดและถาดรองน้ำเช็ดทำความสะอาด
อย่าลืมตรวจสอบและล้างท่อน้ำให้เรียบร้อยด้วย เมื่อทำความสะอาดครบทุกส่วนแล้วให้ประกอบเครื่องกลับและทดสอบการทำงาน
5 ขั้นตอน วิธีล้างทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟ ทำเองได้ง่ายๆ
1. เริ่มต้นที่การทำสะอาดเครื่องชงกาแฟ
การทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้กาแฟที่ชงออกมามีรสชาติที่ดีและเครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการสะสมของคราบกาแฟและน้ำมันอาจทำให้รสชาติของกาแฟเปลี่ยนได้ รวมถึงยังลดอายุการใช้งานของเครื่องอีกด้วย จึงควรทำความสะอาดทุกวัน
ซึ่งวิธีล้างเครื่องชงกาแฟทำได้โดย
- ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำอุ่นบิดให้หมาด จากนั้นจึงเช็ดรอบตัวเครื่องเพื่อขจัดฝุ่นละอองและคราบสกปรก
- ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แห้งเช็ดรอบตัวเครื่องอีกครั้งให้สะอาด
- ล้างถาดรองน้ำทิ้งและตะแกรงวางแก้ว
2. ต่อด้วยล้างหัวกรุ๊ปหรือหัวชงกาแฟ
หัวกรุ๊ปหรือหัวชงกาแฟที่มีคราบกาแฟและน้ำมันสะสม สามารถทำให้รสชาติกาแฟเสียและลดประสิทธิภาพของเครื่อง ดังนั้นการทำความสะอาดหัวชงจึงช่วยรักษาคุณภาพกาแฟ และป้องกันปัญหาจากการอุดตันที่อาจเกิดขึ้น
วิธีล้างหัวกรุ๊ปของเครื่องชงกาแฟเพื่อป้องกันตะกรันมีดังนี้
- ใช้แปรงขัดขนอ่อนทำความสะอาดตามมุมขอบและด้านในของหัวกรุ๊ป รวมถึงซีลยาง
- นำตะแกรงตันที่มีไว้สำหรับล้างหัวชงกาแฟ ใส่เข้าไปแทนตะแกรงชงกาแฟ
- กดปุ่มชงกาแฟเพื่อปล่อยน้ำเปล่า ในระยะเวลา 5 วินาที
ทำทั้งหมด 5 รอบ หรือทำจนกว่าผงกาแฟที่ค้างอยู่ด้านในหัวชงจะออกจนสะอาดหมดจดแล้ว
3. อย่าลืมล้างระบบท่อแรงดัน
ระบบท่อที่สะอาดจะยิ่งช่วยให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและรักษาคุณภาพของกาแฟ โดยการขจัดคราบกาแฟและน้ำมันที่สะสมออกจากท่อ จะช่วยป้องกันไม่ให้ท่ออุดตัน
วิธีล้างคราบตะกรันในระบบท่อของเครื่องชงกาแฟคือ
- เริ่มด้วยการใส่ Basket ที่ไม่มีรูเข้ากับก้านอัด
- เติมผงทำความสะอาดลงใน Basket
- ใส่ Basket ที่มีผงทำความสะอาดเข้าไปที่หัวกรุ๊ป
- ให้เครื่องทำงานโดยปล่อยน้ำร้อนลงในตัวกรองกาแฟประมาณ 7-10 วินาที เพื่อล้างสิ่งสกปรกในระบบท่อแรงดัน
ทำซ้ำตามขั้นตอนข้างต้นทั้งหมด 3 รอบ เพื่อให้ระบบท่อแรงดันสะอาดเรียบร้อย
4. ใส่ใจทำความสะอาดก้านสตีมนม
ก้านสตีมนมเป็นส่วนที่มีคราบนมสะสมสามารถทำให้แบคทีเรียเติบโต รวมถึงทำให้กลิ่นและรสชาติกาแฟเสียได้ การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ก้านสตีมทำงานได้ดีและยังรักษาคุณภาพของกาแฟด้วยเช่นกัน
โดยวิธีล้างก้านสตีมนมเครื่องชงกาแฟทำได้ดังนี้
- ใส่น้ำเปล่าสะอาดครึ่งหนึ่งในเหยือกขนาดกลาง
- เปิดท่อสตีมเหมือนเวลาสตีมนมปกติ เพื่อให้น้ำล้างคราบนมที่ค้างอยู่
- ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แห้งเช็ดก้านสตีมจนสะอาด
5. สุดท้าย ล้างก้านชงและถาดรองน้ำ
ก้านชงและถาดรองน้ำที่มีคราบกาแฟและน้ำสะสม อาจทำให้เกิดกลิ่นรบกวนและส่งผลกระทบต่อรสชาติของกาแฟได้ การทำความสะอาดเป็นประจำจึงช่วยให้กาแฟมีรสชาติที่ดีอยู่เสมอ
สามารถทำตามวิธีล้างเครื่องชงกาแฟได้ดังนี้
- ถอด Basket ออกจากก้านชงก่อนเริ่มการทำความสะอาด
- ล้าง Basket ด้วยน้ำยาล้างจานและน้ำเปล่าจนสะอาด หรือแช่ในน้ำร้อนปริมาณ 500 มิลลิลิตร กับผงทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟเป็นเวลา 30 นาที แล้วนำมาเช็ดให้แห้ง
- ทำความสะอาดถาดรองน้ำ โดยถอดออกมาล้างด้วยน้ำยาล้างจานเช่นเดียวกัน
- อย่าลืมเช็ดใต้ถาดรองน้ำให้แห้ง เพื่อป้องกันการสะสมของคราบและเชื้อโรค
เคล็ดลับ วิธีดูแลรักษาเครื่องชงกาแฟให้อยู่ได้นาน
1. ล้างเครื่องชงกาแฟเป็นประจำ
การล้างเครื่องชงกาแฟให้ถูกวิธีเป็นประจำมีความจำเป็นมากๆ เนื่องจากคราบกาแฟและน้ำมันที่สะสมสามารถทำให้เสียรสชาติของกาแฟ และลดประสิทธิภาพของเครื่องชงกาแฟ
อีกทั้งการทำความสะอาดยังช่วยป้องกันระบบต่างๆ ภายในเครื่อง เพราะเครื่องชงกาแฟที่มีสิ่งอุดตันสะสมเยอะ อาจทำงานได้ช้าหรือหยุดทำงานได้ในที่สุด นอกจากนี้ยังช่วยขจัดแบคทีเรียและเชื้อโรคที่อาจสะสมในเครื่อง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ที่ดื่มกาแฟจากเครื่องชงกาแฟนี้ได้อีกด้วย
2. ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดทุกครั้ง
การใช้น้ำยาทำความสะอาดบ่อยเกินไปอาจทำให้เกิดสารตกค้างภายในเครื่อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรสชาติของกาแฟและประสิทธิภาพของเครื่อง วิธีล้างเครื่องชงกาแฟที่ดีคือการใช้ผงทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
วิธีนี้จะช่วยขจัดคราบกาแฟและน้ำมันที่สะสมโดยไม่ทำให้สารเคมีตกค้างมากเกินไป นอกจากนี้ควรใช้น้ำยาล้างจานที่ไร้สีและไร้กลิ่นเพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มกลิ่นและรสชาติอื่นในกาแฟ
3. ไม่ควรแช่ด้ามชงกาแฟทั้งก้าน
ไม่ควรแช่ด้ามชงกาแฟทั้งก้านในน้ำหรือสารทำความสะอาด เพราะอาจทำให้ส่วนประกอบที่เป็นยางหรือพลาสติกภายในด้ามชงบวม ซึ่งส่งผลให้ด้ามชงเสื่อมคุณภาพ ไม่สามารถใช้งานได้ตามระยะเวลาที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ยังอาจทำให้การชงกาแฟได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้กาแฟที่ชงมีรสชาติไม่อร่อย
4. ใช้ภาชนะแช่เป็นพลาสติก
สารทำความสะอาดจะไม่กัดกร่อนวัสดุที่ทำมาจากพลาสติก การเลือกใช้ภาชนะพลาสติกมาแช่ทำความสะอาดชิ้นส่วนของเครื่องชง จึงช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
หากใช้ภาชนะที่เป็นโลหะหรือวัสดุอื่นๆ สารทำความสะอาดคงกัดกร่อนภาชนะจนเกิดการปนเปื้อนในชิ้นส่วนของเครื่องชงกาแฟ และอาจส่งผลให้กาแฟที่ชงผ่านเครื่องออกมาไม่ปลอดภัยและมีรสชาติไม่ดีได้
สรุป
การล้างเครื่องชงกาแฟให้ถูกวิธีช่วยป้องกันการสะสมของคราบกาแฟและน้ำมันที่อาจทำให้เครื่องอุดตันและรสชาติของกาแฟเสีย ซึ่งการทำความสะอาดอย่างใส่ใจไม่เพียงแต่รักษาคุณภาพของกาแฟเท่านั้น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องได้ดีขึ้นอีกด้วย
Peaberry Thai มีผลิตภัณฑ์ Urnex ที่ออกแบบมาเพื่อดูแลทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟโดยเฉพาะ ช่วยทำความสะอาดหมดจดและถนอมเครื่องชงกาแฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่ดีเยี่ยม