ไขความลับ! กาแฟเปรี้ยวเกิดจากอะไร พร้อมวิธีชงกาแฟไม่ให้เปรี้ยว

Image
ไขความลับ! กาแฟเปรี้ยวเกิดจากอะไร พร้อมวิธีชงกาแฟไม่ให้เปรี้ยว

Key Takeaway

  • กาแฟเปรี้ยวสามารถเกิดจากกรดธรรมชาติในเมล็ดกาแฟ สายพันธุ์ ระดับการคั่ว เมล็ดกาแฟคุณภาพไม่ดี การจัดเก็บเมล็ดกาแฟไม่ถูกวิธี และการชงกาแฟที่ผิดวิธี
  • ความเปรี้ยวในกาแฟที่ถือว่าเป็นความเปรี้ยวที่ไม่ดี คือความเปรี้ยวที่เหมือนของเสีย เหม็นหืน มีกลิ่นไหม้ชัดเจน 
  • คนที่ชอบหรือไม่ชอบกาแฟรสเปรี้ยว สามารถเลือกได้ตามระดับการคั่วหรือสายพันธุ์ของเมล็ดกาแฟ
  • มาเลือกซื้อกาแฟคั่ว ที่ Peaberry Thai ด้วยคุณภาพของเมล็ดกาแฟคั่ว ที่รังสรรมาให้มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เป็นเอกลักษณ์ สามารถเลือกรสเปรี้ยวได้ในระดับที่ต้องการ

กาแฟ คือเครื่องดื่มที่ความนิยมไม่เคยลดลงเลย ปัจจุบันร้านกาแฟและคาเฟ่มีอยู่ทั่วทุกพื้นที่ แต่ละร้านมีเอกลักษณ์ของเมนูกาแฟที่ต่างกันไป และยังมีกาแฟหลายรสชาติ ตั้งแต่รสขมไปจนถึงรสเปรี้ยว 

หลายคนไม่ค่อยชอบกาแฟที่มีรสเปรี้ยวกันเท่าไร เพราะมักเข้าใจผิดว่าเป็นกาแฟที่ไม่ได้คุณภาพหรือกาแฟบูด แต่จริงๆ แล้วรสเปรี้ยวในกาแฟเกิดจากอะไร? และมีวิธีชงกาแฟอย่างไรเพื่อควบคุมรสให้ไม่เปรี้ยว มาหาคำตอบได้ในบทความนี้!

 

สาเหตุของกาแฟเปรี้ยว เกิดจากอะไร

 

สาเหตุของกาแฟเปรี้ยว เกิดจากอะไร

กาแฟติดเปรี้ยว รสชาติที่หลายคนไม่คุ้นเคย บางคนอาจไม่ชอบแต่บางคนกลับชอบ แล้วกาแฟรสเปรี้ยวเกิดจากอะไรได้บ้าง ทำไมกาแฟถึงมีรสเปรี้ยว ไปดูกัน!

1. กรดธรรมชาติที่อยู่ในเมล็ดกาแฟ

ลักษณะทางกายภาพของกาแฟก่อนนำมาคั่วจะมีลักษณะคล้ายผลเชอร์รี่ ซึ่งมีรสเปรี้ยวเป็นธรรมชาติแบบกรดในผลไม้ ซึ่งกรดธรรมชาติที่ทำให้เกิดรสเปรี้ยวในกาแฟ มีดังนี้

  • กรดมาลิก: เป็นกรดที่สามารถพบได้ในผลไม้จำพวกแอปเปิลเขียว
  • กรดซิตริก: เป็นกรดที่สามารถพบได้ในผลไม้จำพวกเลม่อน และเนคทารีน (ผลไม้คล้ายพีช)
  • กรดอะซิติก: เป็นกรดที่สามารถพบได้ในน้ำส้มสายชู
  • กรดควินิก: เป็นกรดที่มีรสขม ฝาด และเปรี้ยวมาก

2. สายพันธุ์ของเมล็ดกาแฟ

สายพันธุ์กาแฟที่เราคุ้นเคยกัน เช่น อาราบิกา โรบัสตา ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป แต่ถ้าพูดถึงความเปรี้ยว สายพันธุ์อาราบิกาจะชัดเจนกว่าเพราะมีกรดสูงมากกว่าพันธุ์อื่นๆ โดยเฉพาะกรดซิตริกและกรดมาลิก จึงทำให้มีรสเปรี้ยวมากกว่าพันธุ์อื่นๆ นอกจากนี้สายพันธุ์อาราบิกายังสามารถรักษาความเปรี้ยวได้ดีกว่าพันธุ์อื่นๆ อีกด้วย

3. ระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟ

นอกจากความเปรี้ยวที่เกิดจากธรรมชาติของสายพันธุ์กาแฟ แหล่งที่ปลูก สภาพอากาศที่ปลูก หรือสายพันธุ์กาแฟแล้ว กระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟยังสามารถมีผลต่อระดับความเปรั้ยวได้ด้วยเช่นกัน

  • คั่วอ่อน: จะใช้อุณหภูมิในการคั่วอยู่ที่ 177 องศาเซลเซียส ประมาณ 10-15 นาที ซึ่งจะได้เมล็ดกาแฟสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงซีดที่ยังคงรสชาติของกาแฟอยู่ จึงทำให้มีรสเปรี้ยวมาก เหมาะนำไปชงเป็นกาแฟร้อน
  • คั่วกลาง: จะใช้อุณหภูมิในการคั่วอยู่ที่ 204-221 องศาเซลเซียส ประมาณ 15-20 นาที ซึ่งจะได้เมล็ดกาแฟสีน้ำตาล ผิวมันเงา ได้รสชาติกาแฟที่มีรสขมขึ้นมา ทำให้รสเปรี้ยวลดลงเล็กน้อย จะนำไปชงเป็นกาแฟร้อนหรือเย็นก็ได้เช่นกัน
  • คั่วเข้ม: จะใช้อุณหภูมิในการคั่วอยู่ที่ 232 องศาเซลเซียส ประมาณ 15-20 นาที ซึ่งจะได้เมล็ดกาแฟสีเข้มมาก ทำให้มีรสขมชัดเจนมากขึ้นแทนที่รสเปรี้ยว เหมาะสำหรับการชงกาแฟเย็น

4. เมล็ดกาแฟไม่ได้คุณภาพ

กาแฟติดเปรี้ยวยังเกิดได้จากกาแฟที่ไม่มีคุณภาพ กาแฟเก่า กาแฟหมดอายุแล้ว หรือเกิดจากการเก็บรักษาที่ไม่ถูกวิธี เก็บในที่ชื้นสูง อุณหภูมิไม่คงที่ ประสิทธิภาพในการคั่วไม่ดี หรืออาจจะเกิดจากการหมักที่นานเกินไป ซึ่งส่งผลให้กาแฟมีรสเปรี้ยวเหมือนกาแฟบูด บางร้านอาจเลือกใช้เป็นวัตถุดิบเพราะมีราคาถูก เพื่อประหยัดต้นทุนถูกนั่นเอง  

5. วางเมล็ดกาแฟในพื้นที่ที่โดนแสงแดด

ความหอมและรสชาติเข้มข้นที่มีเอกลักษณ์ของกาแฟ ถือเป็นจุดขายที่ทำให้หลายคนชอบดื่มกาแฟ ดังนั้นการเก็บรักษากาแฟเพื่อให้กาแฟยังคงความหอมและรสชาติที่ดี จึงถือเป็นเรื่องสำคัญ หากนำไปเก็บรักษาแบบไม่ถูกวิธีหรือนำไปวางไว้ในที่ที่มีแสงแดด วางปนกับวัตถุดิบอื่นๆ ที่มีกลิ่น อาจทำให้กาแฟมีกลิ่นไม่ดีหรือเสียรสชาติไปเลยก็ได้ 

การเก็บกาแฟที่ถูกต้อง ควรเก็บในพื้นที่ที่แห้ง ไม่มีความชื้น ใส่ภาชนะที่เป็นขวดแก้วทึบแสง มีฝาซีลปิดสนิท พยายามอย่าให้อากาศภายนอกเข้าไปข้างในเด็ดขาด เพื่อรักษาความสดใหม่ ให้กาแฟมีรสชาติที่พอดี ไม่เปรี้ยวเกินไป และยังคงความหอมกรุ่นได้ตลอดเวลา 

6. ชงกาแฟผิดวิธี

การรังสรรกาแฟให้ออกมามีรสชาติที่กลมกล่อมและหอมกรุ่นตามแบบฉบับคนรักกาแฟ วิธีชงก็สำคัญเพราะหากเมล็ดกาแฟมีคุณภาพและคั่วมาดี แต่ถ้าชงไม่ถูกวิธีก็อาจทำให้กาแฟมีรสเปรี้ยวได้ แล้ววิธีชงแบบไหนที่ทำให้กาแฟมีรสเปรี้ยวได้ ไปดูกัน

  • บดเมล็ดกาแฟหยาบเกินไป จึงทำให้ต้องใช้เวลานานกว่าน้ำจะละลายกาแฟหมด ทำให้การสกัดออกมาช้ากว่าปกติ และไม่ทั่วถึงมากพอ
  • ใช้เวลาชงเร็วเกินไป เพราะการชงกาแฟ จำเป็นต้องชงให้นานพอจะดึงรสชาติกาแฟออกมาได้ เพื่อให้กาแฟมีรสเปรี้ยวน้อยลง และมีรสชาติที่ลงตัว
  • อุณหภูมิน้ำเย็นเกินไป โดยอุณหภูมิที่พอดีคือประมาณ 88-94 องศาเซลเซียส หากต่ำกว่านี้จะทำให้การสกัดกาแฟไม่ได้ประสิทธิภาพ
  • อัตราส่วนน้ำในการชงน้อยเกินไป หากใช้น้ำไม่พอสำหรับการสกัดกาแฟ จะทำให้การชงไม่ได้ประสิทธิภาพ จนทำให้รสชาติที่ออกมาไม่ลงตัว 

กาแฟรสเปรี้ยว ถือว่าไม่มีคุณภาพจริงไหม?

กาแฟเปรี้ยวดีไหม? กาแฟติดรสเปรี้ยว ไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นกาแฟที่ไร้คุณภาพเสมอไป แต่รสเปรี้ยวที่ออกมาจากกาแฟกลับเป็นเอกลักษณ์ของรสชาติกาแฟที่ทำให้การดื่มกาแฟรู้สึกสดชื่นมากขึ้น และยังช่วยให้สัมผัสรสหวานของกาแฟได้ดีขึ้นอีกด้วย กลับกันกาแฟที่คั่วไหม้จนไม่มีรสเปรี้ยวหลงเหลืออยู่เลย อาจเป็นกาแฟคุณภาพไม่ดี ซึ่งคนไม่นิยมดื่มกัน  

เพราะฉะนั้นรสชาติของกาแฟจึงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน กาแฟรสเปรี้ยวก็ไม่ได้หมายว่ากาแฟจะด้อยคุณภาพเสมอไป หากมีความเปรี้ยวคล้ายผลไม้ ไม่ใช่เปรี้ยวเหมือนของเสียก็ถือว่าเป็นกาแฟที่คุณภาพดีอยู่ 

 

กาแฟรสเปรี้ยวแบบไหนดี แบบไหนไม่ดี?

 

กาแฟรสเปรี้ยวแบบไหนดี แบบไหนไม่ดี?

อย่างที่รู้กันว่ารสเปรี้ยวในกาแฟไม่ได้ทำให้กาแฟไร้คุณภาพ แต่ความเปรี้ยว ณ ที่นี้ ต้องแยกแยะด้วยว่าเป็นความเปรี้ยวแบบไหน แล้วรสเปรี้ยวแบบไหนที่เรียกว่ามีคุณภาพดีบ้าง?

  • รสเปรี้ยวแบบเลม่อน ที่เกิดจากกรดซิตริก มักเกิดในกาแฟที่มีความสดใหม่ และปลูกบนที่สูง 
  • รสเปรี้ยวแบบแอปเปิ้ลเขียว ที่เกิดจากกรดมาลิก มักเกิดในกาแฟที่ยังสุกไม่เต็มที่ เป็นลักษณะที่เห็นได้บ่อยในกาแฟที่มาจากแถบแอฟริกาตะวันออก 
  • รสเปรี้ยวแบบน้ำโทนิก ที่เกิดจากกรดควินิก ทำให้กาแฟมีรสเปรี้ยวแบบฝาดๆ 
  • รสเปรี้ยวแบบโคล่า ที่เกิดจากกรดฟอสฟอริก เป็นกรดแร่ ที่พบในกาแฟในแถบเคนยา
  • รสเปรี้ยวแบบน้ำส้มสายชู ที่เกิดจากกรดอะซิติก มีรสเปรี้ยวจัดเหมือนน้ำส้มสายชู

 

แล้วรสเปรี้ยวแบบไหนที่เรียกว่าไม่มีคุณภาพ? รสเปรี้ยวที่คุณภาพไม่ดีคือรสเปรี้ยวคล้ายของเสีย เพราะหากรสเปรี้ยวจากกาแฟมีลักษณะเหมือนของเสีย อาจเกิดจากการเก็บรักษาที่ไม่ดี หรือเกิดจากกรรมวิธีการหมักที่ไม่ได้มาตรฐานนั่นเอง หรือกาแฟที่มีกลิ่นขมไหม้ หรือกลิ่นเหม็นหืน ก็ถือเป็นกาแฟที่ไม่ได้คุณภาพเช่นกัน

 

แจกวิธีชงกาแฟไม่ให้มีรสเปรี้ยว

 

แจกวิธีชงกาแฟไม่ให้มีรสเปรี้ยว 

เพราะการชงกาแฟที่ไม่ถูกวิธี อาจทำให้กาแฟมีรสเปรี้ยวได้ ถ้าไม่อยากดื่มกาแฟที่มีรสเปรี้ยวเกินไป ลองปรับวิธีชงให้มีประสิทธิภาพ ไม่ให้ติดเปรี้ยวได้ดังนี้

  1. เลือกเมล็ดกาแฟแบบคั่วกลางหรือแบบคั่วเข้ม
  2. นำเมล็ดกาแฟมาบดให้ละเอียด 
  3. นำกาแฟคั่วบดผ่านน้ำช้าๆ ในอุณหภูมิประมาณ 88-94 องศาเซลเซียส
  4. แช่กาแฟทิ้งไว้ประมาณ 4-5 นาที เพื่อลดความเปรี้ยว
  5. อาจจะเพิ่มนมหรือครีม เพื่อลดความเปรี้ยวได้ จากนั้นก็พร้อมเสิร์ฟ

สรุป

เห็นกันไปแล้วว่า กาแฟเปรี้ยวไม่ได้ไร้คุณภาพเสมอไป อาจเกิดได้จากกรดธรรมชาติในเมล็ดกาแฟ สายพันธุ์ ระดับการคั่ว หรือการเก็บแบบรักษาไม่ดี จนทำให้กาแฟไม่สดใหม่ ถูกแดดนานจนกลิ่นหาย นอกจากนี้ การชงกาแฟที่ผิดวิธีก็ส่งผลให้กาแฟมีรสเปรี้ยวได้เช่นกัน แต่ความเปรี้ยวที่ไม่ดี จะมีกลิ่นคล้ายของเสียหรือเหม็นหืน และอาจมีกลิ่นไหม้ชัดเจน แต่ถ้าไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบกาแฟรสเปรี้ยว ก็สามารถเลือกเมล็ดกาแฟตามระดับการคั่วที่ต้องการได้ 

คอกาแฟห้ามพลาด! เลือกซื้อกาแฟคั่ว ที่ Peaberry Thai กันดีกว่า ด้วยคุณภาพของเมล็ดกาแฟคั่ว ที่มาพร้อมกลิ่นหอมเฉพาะตัว เลือกได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นความเปรี้ยวในระดับไหน เพื่อให้ทุกช่วงเวลาในการดื่มกาแฟของคุณน่าจดจำที่สุด 

แชร์