เครื่องชงกาแฟมีกี่แบบ และเปรียบเทียบข้อดี-ข้อสังเกต ก่อนตัดสินใจซื้อ

Image
เครื่องชงกาแฟมีกี่แบบ และเปรียบเทียบข้อดี-ข้อสังเกต ก่อนตัดสินใจซื้อ

Key Takeaway

  • เครื่องชงกาแฟกี่แบบ? โดยเครื่องชงกาแฟมีมี 8 แบบ ได้แก่ ดริป เฟรนช์เพรส แคปซูล เอสเพรสโซ มอคคาพอต หม้อต้ม สุญญากาศ และอัตโนมัติ
  • เลือกเครื่องชงกาแฟโดยพิจารณาจากประเภทกาแฟที่ชอบ ความสะดวกในการใช้งาน งบประมาณ และความเร็วในการชง
  • ที่ Peaberry Thai มีเครื่องชงกาแฟหลายแบบให้เลือก เพื่อตอบสนองทุกความต้องการและสไตล์ของคุณ

คอกาแฟต้องรู้! เครื่องชงกาแฟกี่แบบ? พร้อมทั้งข้อดี-สิ่งที่ควรรู้ และวิธีการดูแลรักษาเครื่องชงกาแฟแต่ละประเภท เพื่อให้คุณสามารถเลือกเครื่องชงกาแฟที่เหมาะสมกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างดีที่สุด

เครื่องชงกาแฟมีกี่แบบ? พร้อมเปรียบเทียบความต่างของแต่ละแบบ

มาดูลักษณะ คุณสมบัติ ฟังก์ชันการทำงาน รวมถึงข้อดีและสิ่งที่ควรรู้ของเครื่องชงกาแฟแต่ละแบบกันดีกว่า!

 

เครื่องชงกาแฟแบบดริป (Drip Pot Coffee Maker)

 

1. เครื่องชงกาแฟแบบดริป (Drip Pot Coffee Maker)

เครื่องชงกาแฟแบบดริป หรือ Drip Coffee Maker คือเครื่องชงกาแฟที่ใช้หลักการของการหยดน้ำร้อนผ่านกาแฟบด เพื่อสกัดสารออกมาจากกาแฟ โดยน้ำร้อนจะไหลผ่านกาแฟบดที่วางอยู่ในกระดาษกรองหรือที่กรองกาแฟ ซึ่งน้ำจะหยดลงไปในภาชนะด้านล่างที่มักจะเป็นหม้อเก็บกาแฟ เหมาะกับการทำกาแฟดำที่มีรสชาติเข้มข้น กาแฟลาเต้ที่ทำจากกาแฟดำผสมกับนมสด และกาแฟคาปูชิโนที่เติมฟองนมเพื่อเพิ่มรสชาติ โดยใครที่กำลังคิดว่าเครื่องชงกาแฟแบบไหนดีที่เหมาะสำหรับการทำกาแฟทั้งร้อนและเย็น Kalita Coffee Drip Set Ice&Hot ถือเป็นตัวเลือกที่ดี

  • ข้อดี ใช้งานง่ายและสะดวก ชงกาแฟได้จำนวนมากในครั้งเดียว มีราคาเข้าถึงได้ง่าย ให้รสชาติกาแฟที่ดีและสม่ำเสมอ มีฟังก์ชันในการควบคุมอุณหภูมิและเวลาได้
  • สิ่งที่ควรรู้ ควรใช้กาแฟบดที่มีความละเอียดพอเหมาะเพื่อป้องกันการตกค้างในกระดาษกรองและทำความสะอาดเครื่องอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษารสชาติและอายุการใช้งาน ควรหลีกเลี่ยงการทิ้งกาแฟในหม้อเก็บกาแฟนานเกินไปและตั้งเวลาและอุณหภูมิให้เหมาะสมเพื่อให้กาแฟมีรสชาติที่ดีที่สุด

 

เครื่องชงกาแฟเฟรนช์เพรส (French Press)

 

2. เครื่องชงกาแฟเฟรนช์เพรส (French Press)

เครื่องชงกาแฟมีกี่ประเภท? ประเภทไหนที่ใช้งานง่าย คำตอบคือเครื่องชงกาแฟเฟรนช์เพรส (French Press) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้การแช่กาแฟบดในน้ำร้อน ก่อนที่จะกดกาแฟด้วยพายโลหะหรือพลาสติกเพื่อแยกกาแฟบดออกจากน้ำกาแฟ กาแฟจะถูกกรองโดยพายที่มีตะแกรงละเอียด การใช้งานนั้นสะดวกเพียงแค่ใส่กาแฟบด เติมน้ำร้อน แล้วกดพายลง เพื่อให้ได้กาแฟที่มีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้น 

เหมาะกับการทำกาแฟดำที่ต้องการรสชาติเข้มข้น และกาแฟสไตล์เอสเพรสโซที่ต้องการเนื้อกาแฟหนาและมีครีมมี่ ส่วนกาแฟลอยด์ (French Press Coffee) ก็เป็นเมนูยอดนิยมที่ใช้เครื่องชงนี้

  • ข้อดี ใช้งานง่าย สะดวก รักษากลิ่นและรสชาติของกาแฟได้ดี ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ปรับความเข้มของกาแฟได้ตามต้องการ ทำกาแฟได้จำนวนมากในคราวเดียว
  • สิ่งที่ควรรู้ ควรใช้กาแฟบดหยาบเพื่อป้องกันการตกค้างในตะแกรง ทำความสะอาดเครื่องทุกครั้งหลังใช้เพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่นและรสชาติที่ไม่ต้องการ ตั้งเวลาให้เหมาะสมเพื่อควบคุมความเข้มข้น อาจต้องทดลองหาสัดส่วนกาแฟและน้ำที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการทิ้งกาแฟในเครื่องนานเกินไปเพื่อป้องกันการเสื่อมรสชาติ

 

เครื่องชงกาแฟแคปซูล (Capsule machine)

 

3. เครื่องชงกาแฟแคปซูล (Capsule machine)

หากถามว่าเครื่องทำกาแฟมีกี่แบบ หนึ่งในเครื่องชงกาแฟที่ต้องใช้แคปซูลกาแฟสำเร็จรูป คือ เครื่องชงกาแฟแคปซูล (Capsule machine) ซึ่งบรรจุกาแฟบดไว้ในแคปซูลที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยเครื่องจะเจาะแคปซูลแล้วปล่อยน้ำร้อนผ่านกาแฟในแคปซูลเพื่อสกัดกาแฟออกมา การใช้งานทำได้ง่าย เพียงแค่ใส่แคปซูลลงในเครื่อง กดปุ่มเริ่มทำงาน และรอให้เครื่องทำการชงกาแฟ เหมาะกับการทำกาแฟหลากหลายประเภท เช่น กาแฟเอสเพรสโซ กาแฟลาเต้ กาแฟคาปูชิโน และกาแฟดำ เนื่องจากแคปซูลมีหลากหลายรสชาติและสูตรให้เลือก

  • ข้อดี ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วในการชงกาแฟ รักษาความสะอาดได้ง่าย มีความหลากหลายของรสชาติและสูตรกาแฟ เหมาะสำหรับการชงกาแฟในปริมาณที่แน่นอน
  • สิ่งที่ควรรู้ ควรเลือกแคปซูลที่ตรงกับรุ่นเครื่องเพื่อป้องกันปัญหาในการใช้งาน ทำความสะอาดเครื่องเป็นประจำเพื่อรักษาคุณภาพกาแฟและอายุการใช้งาน จัดเก็บแคปซูลในที่แห้งและเย็น และตรวจสอบการบำรุงรักษาตามคู่มือเพื่อป้องกันปัญหา

 

 เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ (Espresso Machine)

 

4. เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ (Espresso Machine)

หากคุณสงสัยว่าเครื่องชงกาแฟมีกี่แบบ และแบบไหนที่ใช้ชงกาแฟเอสเพรสโซ? ต้องรู้จักกับ เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ (Espresso Machine) เครื่องที่ใช้การบังคับน้ำร้อนผ่านกาแฟบดด้วยแรงดันสูงเพื่อสกัดกาแฟออกมาให้เข้มข้น โดยการเติมน้ำและกาแฟบดลงในเครื่อง จากนั้นกดปุ่มเพื่อให้เครื่องทำการชงกาแฟ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

Mahlkonig EK43T เป็นเครื่องกาแฟเอสเพรสโซที่บดกาแฟให้ได้ความละเอียดพอเหมาะ เหมาะสำหรับเมนูกาแฟที่ต้องการรสชาติเข้มข้น เช่น เอสเพรสโซ กาแฟลาเต้ คาปูชิโน และมอคค่า เนื่องจากสามารถสกัดกาแฟให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดี

  • ข้อดี สกัดกาแฟให้รสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมเด่นชัด ชงกาแฟได้รวดเร็วภายในไม่กี่นาที สร้างครีมมี่ที่ยอดเยี่ยม และปรับแต่งรสชาติและความเข้มข้นได้ตามต้องการ
  • สิ่งที่ควรรู้ ใช้กาแฟบดละเอียดเพื่อการสกัดที่ดี ทำความสะอาดเครื่องสม่ำเสมอ ตรวจสอบอุณหภูมิและแรงดันให้เหมาะสมเพื่อให้กาแฟมีรสชาติที่ดี และตรวจสอบระดับน้ำในถังเสมอเพื่อให้การชงกาแฟไม่ขาดตอน

 

เครื่องชงกาแฟมอคคาพอต (Moka Pot)

 

5. เครื่องชงกาแฟมอคคาพอต (Moka Pot)

เครื่องทำกาแฟมีกี่แบบ? มาดูแบบต่อมา ซึ่งก็คือเครื่องชงกาแฟมอคคาพอต (Moka Pot) เป็นหม้อที่มีสองชั้นและมีวาล์วความดันที่ช่วยในการสกัดกาแฟ การใช้งานทำได้โดยการเติมน้ำในชั้นล่าง ใส่กาแฟบดลงในตัวกรองกลาง และวางเครื่องบนเตาแก๊สหรือไฟฟ้าให้ความร้อน น้ำจะถูกทำให้เดือดและสร้างแรงดันดันกาแฟผ่านตัวกรองขึ้นไปยังชั้นบน

เครื่องชงกาแฟมอคคาพอต (Moka Pot) เหมาะสำหรับเมนูกาแฟที่ต้องการรสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นหอม เช่น กาแฟเอสเพรสโซ และกาแฟดำ โดยกาแฟที่ได้จะมีรสชาติเข้มข้นคล้ายกับกาแฟเอสเพรสโซ แต่จะมีปริมาณน้ำมากกว่า

  • ข้อดี ทำกาแฟรสชาติเข้มข้นได้ง่าย ใช้พลังงานน้อย เพราะใช้เตาแก๊สหรือไฟฟ้า ใช้งานและบำรุงรักษาง่าย เหมาะสำหรับชงกาแฟปริมาณมาก ทำกาแฟคล้ายเอสเพรสโซได้รวดเร็วโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า
  • สิ่งที่ควรรู้ ใช้กาแฟบดละเอียดพอเหมาะเพื่อการสกัดที่ดีที่สุด ให้ความร้อนสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงการใช้ไฟแรงเกินไป ทำความสะอาดเครื่องบ่อยๆ เพื่อรักษาคุณภาพกาแฟและยืดอายุการใช้งาน ตรวจสอบการรั่วซึมที่วาล์วความดันและชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่อง

 

 เครื่องชงกาแฟแบบหม้อต้ม (Percolator)

 

6. เครื่องชงกาแฟแบบหม้อต้ม (Percolator)

ต่อมา มาดูกันว่าเครื่องชงกาแฟที่ใช้ไฟฟ้ามีกี่แบบ? หนึ่งในนั้นคือเครื่องชงกาแฟแบบหม้อต้ม (Percolator) เป้นเครื่องชงกาแฟที่ใช้การทำงานด้วยระบบหมุนเวียนของน้ำร้อนผ่านกาแฟบดโดยใช้ความดันต่ำ การใช้งานทำได้โดยเติมน้ำลงในชั้นล่างของเครื่อง ใส่กาแฟบดในตัวกรองกลาง และวางเครื่องบนเตาไฟหรือไฟฟ้าให้ความร้อน น้ำจะถูกทำให้เดือดและไหลผ่านกาแฟบดกลับไปยังชั้นล่าง ทำให้กาแฟสกัดและหมุนเวียนออกมาเรื่อยๆ จนกว่าจะได้รสชาติที่ต้องการ 

เหมาะสำหรับเมนูกาแฟที่ต้องการรสชาติที่เข้มข้น เช่น กาแฟดำ ซึ่งเครื่องนี้สามารถทำกาแฟจำนวนมากได้ในเวลาเดียวกัน และยังเหมาะสำหรับการทำกาแฟที่มีรสชาติเข้มข้น แต่ต้องการการสกัดที่ช้ากว่าเพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม

  • ข้อดี เหมาะสำหรับการทำกาแฟให้หลายคน ใช้พลังงานน้อยเพราะไม่ต้องใช้ไฟฟ้าต่อเนื่องหลังจากเริ่มทำงาน การออกแบบเรียบง่าย ใช้งานและบำรุงรักษาง่าย พร้อมทั้งให้รสชาติและกลิ่นกาแฟที่เข้มข้นและกลมกล่อม เนื่องจากกาแฟหมุนเวียนผ่านกาแฟบดหลายครั้ง
  • สิ่งที่ควรรู้ ควรเลือกกาแฟบดที่มีความละเอียดเหมาะสมและควบคุมเวลาในการสกัดให้ได้รสชาติกลมกล่อม ควรทำความสะอาดเครื่องหลังการใช้งานทุกครั้ง และตรวจสอบหม้อต้มและตัวกรองเพื่อป้องกันการอุดตันหรือการรั่วซึม

 

เครื่องชงกาแฟแบบสุญญากาศ (Syphon Coffee)

 

7. เครื่องชงกาแฟแบบสุญญากาศ (Syphon Coffee)

เครื่องชงกาแฟมีกี่ประเภท? มาดูประเภทที่เป็นสุญญากาศว่าคืออะไร โดยเครื่องชงกาแฟแบบสุญญากาศ (Syphon Coffee) ใช้หลักการของความดันและสุญญากาศในการสกัดกาแฟ โดยน้ำร้อนจะถูกดึงผ่านกาแฟบดไปยังชั้นบนและไหลกลับลงมาหลังการสกัดเสร็จสิ้น โดยการเติมน้ำในชั้นล่างและกาแฟบดในชั้นบน จากนั้นให้ความร้อนที่ชั้นล่าง เมื่อความร้อนทำให้เกิดความดัน น้ำจะไหลผ่านกาแฟบดไปยังชั้นบน เหมาะสำหรับกาแฟที่ต้องการรสชาติชัดเจนและกลิ่นหอม เช่น กาแฟดำและเอสเพรสโซ

  • ข้อดี ให้การสกัดที่บริสุทธิ์และรสสัมผัสชัดเจน ดึงรสชาติและกลิ่นที่ดีที่สุดจากกาแฟออกมาได้ พร้อมทำกาแฟที่หลากหลายและซับซ้อน การควบคุมการสกัดแม่นยำและมีประสิทธิภาพ และช่วยให้กาแฟมีกลิ่นหอมและรสชาติที่ดี
  • สิ่งที่ควรรู้ ใช้กาแฟบดที่มีความละเอียดเหมาะสมเพื่อรสชาติที่ดีที่สุด ควบคุมเวลาการสกัดเพื่อไม่ให้กาแฟขมเกินไป ทำความสะอาดเครื่องหลังการใช้งานทุกครั้ง และตรวจสอบการอุดตันหรือการรั่วซึมในหม้อต้มและตัวกรองเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

 

เครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติ (Fully Automatic Coffee Machine)

 

8. เครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติ (Fully Automatic Coffee Machine)

เครื่องชงกาแฟมีกี่แบบ? แบบสุดท้ายที่น่าสนใจคือเครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติ (Fully Automatic Coffee Machine) เครื่องที่ทำการชงกาแฟทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่การบดเมล็ดกาแฟจนถึงการทำความสะอาด การใช้งานง่าย เพียงเติมน้ำและเมล็ดกาแฟ เลือกเมนูผ่านหน้าจอสัมผัสหรือปุ่มควบคุม เครื่องจะทำการบดและสกัดกาแฟ พร้อมฟังก์ชันการทำฟองนมและปรับความเข้มได้ เหมาะสำหรับเมนูกาแฟหลากหลาย เช่น เอสเพรสโซ คาปูชิโน ลาเต้ และกาแฟดำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกและการทำกาแฟคุณภาพสูงอย่างรวดเร็ว

  • ข้อดี เครื่องชงกาแฟที่ใช้งานง่าย เพียงกดปุ่มเดียวก็ชงกาแฟได้หลากหลาย เช่น เอสเพรสโซ คาปูชิโน และลาเต้ พร้อมฟังก์ชันทำฟองนม ปรับความเข้ม และระบบล้างอัตโนมัติ เหมาะสำหรับบ้านหรือสำนักงาน
  • สิ่งที่ควรรู้ ควรดูแลทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟอย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งาน แนะนำให้ใช้น้ำกรองป้องกันคราบตะกรัน และทำความสะอาดฟังก์ชันทำฟองนมหลังใช้ทุกครั้งเพื่อป้องกันการอุดตัน การเลือกเมล็ดกาแฟและการตั้งค่าความเข้มส่งผลต่อรสชาติ

เคล็ดไม่ลับ! วิธีดูแลเครื่องชงกาแฟฉบับร้านคาเฟ่

การดูแลรักษาเครื่องชงกาแฟเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งาน และรักษาคุณภาพกาแฟที่ชงได้ โดยการทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟมีกี่แบบ ไปดูกัน

  • การทำความสะอาดประจำวัน เริ่มจากการล้างแท็งก์น้ำและถาดรองหยดด้วยน้ำเปล่าเพื่อล้างคราบน้ำและกาแฟ จากนั้น เช็ดทำความสะอาดหัวชงและกรวยชงด้วยผ้าหรือแปรงเพื่อขจัดคราบกาแฟ หลังจากนั้น ล้างเครื่องด้วยน้ำร้อนเพื่อทำความสะอาดระบบ เติมน้ำสะอาดลงในแท็งก์แล้วชงกาแฟใหม่เพื่อตรวจสอบว่าทุกอย่างทำงานได้ปกติ
  • การทำความสะอาดทุกเดือน การทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟทุกเดือนเริ่มจากการถอดและล้างตัวกรองกาแฟด้วยน้ำร้อนและสบู่อ่อน ขัดหัวชงด้วยแปรงแล้วล้างด้วยน้ำร้อน ใช้สารทำความสะอาดเฉพาะสำหรับเครื่องตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อทำความสะอาดระบบภายใน
    เช็ดทำความสะอาดภายในและภายนอกเครื่อง รวมถึงถาดรองหยดและแท็งก์น้ำด้วยผ้าแห้ง เติมน้ำสะอาดลงในแท็งก์แล้วชงกาแฟใหม่เพื่อล้างสารทำความสะอาดออกจากระบบ
  • การทำความสะอาดทุกปี การทำความสะอาดเครื่องชงเอสเพรสโซทุกปีเริ่มจากการถอดและล้างตัวกรอง กรวยชง และหัวชงด้วยน้ำร้อนและแปรง ตรวจสอบและทำความสะอาดถังน้ำและท่อน้ำด้วยสารทำความสะอาดเพื่อขจัดคราบแร่ธาตุ ถอดชิ้นส่วนที่ถอดได้ทั้งหมดและล้างอย่างละเอียด ตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสื่อมสภาพ จากนั้นประกอบเครื่องกลับและชงกาแฟด้วยน้ำสะอาดเพื่อล้างระบบและตรวจสอบการทำงาน

สรุป

รู้กันไปแล้วว่าเครื่องชงกาแฟมีกี่แบบ แต่ละแบบต่างกันอย่างไร เท่านี้ก็เลือกตามความชอบและวัตถุประสงค์การใช้งานอย่างเหมาะสมได้แล้ว โดยเครื่องชงกาแฟตาสงกันที่ระบบการทำงาน เช่น การใช้แรงดันน้ำ การหมุนเวียนน้ำ และการใช้พลังงานไฟฟ้า ความสะดวก และความรวดเร็วในการชงกาแฟ หากคุณสนใจเครื่องชงกาแฟ Peaberry Thai มีหลายแบบให้เลือก ตอบโจทย์ทุกสไตล์และความต้องการของคุณอย่างแน่นอน

แชร์