Key Takeaway
- Espresso Perfect Shot คือกาแฟเอสเพรสโซที่เข้มข้นและมีรสชาติโดดเด่น ซึ่งถูกคิดสูตรขึ้นโดยการใช้กาแฟที่มีคุณภาพสูงผ่านกระบวนการสกัดที่แม่นยำ เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นที่ดีที่สุด
- เพื่อให้ได้กาแฟ Espresso Perfect Shot ที่สมบูรณ์แบบ ต้องอาศัย 5 ปัจจัยหลักที่สำคัญ ได้แก่ กาแฟก้นถ้วย กาแฟส่วนกลาง การเทที่สมดุล เวลาที่เหมาะสม และกากกาแฟที่จับตัว
- เลือกซื้อเมล็ดกาแฟที่ Peaberry Thai ที่นี่มีเมล็ดกาแฟหลากหลายสายพันธุ์ รับรองว่าจะได้เมล็ดกาแฟที่สดใหม่ เพื่อกาแฟ Espresso Perfect Shot ที่สมบูรณ์แบบแน่นอน
กาแฟ Espresso Perfect Shot คือกาแฟเอสเปรสโซสุดสมบูรณ์แบบและเป็นเอกลักษณ์ ที่กว่าจะได้แต่ละแก้วต้องผ่านการชงที่พิถีพิถันและการลองผิดลองถูกนับครั้งไม่ถ้วน มาทำความรู้จักกับ กาแฟ Espresso Perfect Shot ว่าคืออะไร มีรสชาติอย่างไร พร้อมวิธีทำอย่างละเอียดให้ไปลองทำ หาคำตอบได้ในบทความนี้เลย
ทำความรู้จักกาแฟ Espresso Perfect Shot
Espresso Perfect Shot คือกาแฟเอสเพรสโซที่มีความเข้มข้นและรสชาติที่โดดเด่น ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยการใช้กาแฟที่มีคุณภาพสูงผ่านกระบวนการสกัดที่แม่นยำ เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นที่ดีที่สุด โดยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟ Espresso Perfect Shot ต้องมีความหวานเล็กน้อยที่มาจากน้ำตาลธรรมชาติของเมล็ดกาแฟ มาพร้อมกับความเข้มข้นแต่กลมกล่อม อาจจะมีความเปรี้ยวของตัวเมล็ดกาแฟปนมาบ้างแต่ต้องไม่โดดเกินไปจนเสียรสชาติ
นอกจากนี้ กาแฟ Espresso Perfect Shot ยังมีกลิ่นที่หอมหวาน ซับซ้อนไปด้วยกลิ่นของช็อกโกแลต คาราเมล หรือกลิ่นผลไม้เฉพาะของตัวเมล็ดกาแฟ เมื่อได้ดื่มจะสามารถสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลจากฟองครีม (crema) ที่หนาแน่นอยู่บนผิวหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการดื่มกาแฟได้มากยิ่งขึ้น
Espresso Perfect Shot แตกต่างจาก Espresso ทั่วไปอย่างไร
Espresso ทั่วไปมีรสชาติที่เข้มข้นและขม แต่ความหวานและเปรี้ยวอาจต่างกันไปตามชนิดของเมล็ดกาแฟและวิธีการชง บางครั้งอาจมีรสชาติที่โดดเด่น เช่น ช็อกโกแลตหรือถั่วมาพร้อมกับกลิ่นหอมที่เข้มข้น และสัมผัสที่บางครั้งอาจรู้สึกถึงความไม่เนียนนุ่มเท่าที่ควร ขึ้นอยู่กับการชงและคุณภาพของเมล็ดกาแฟ
แตกต่างจากกาแฟ Espresso Perfect Shot ตรงที่ตัวกาแฟ Perfect Shot จะมีความพิถีพิถันในการชงมากกว่า ทำให้ทั้งรสชาติ กลิ่น และสัมผัสที่ได้จะนุ่มละมุน มีความสม่ำเสมอกันมากกว่า เพื่อให้ได้ประสบการณ์การดื่มกาแฟที่ดีที่สุด ส่วน Espresso ทั่วไปจะเน้นไปที่ความหลากหลายของเทคนิคแต่ละร้านกาแฟ
Espresso สามแบบ สามรสชาติที่แตกต่าง
เมื่อทำความรู้จักกับกาแฟ Espresso Perfect Shot กันไปแล้วว่าหมายถึงอะไร มาดู Espresso สามแบบ สามรสชาติที่แตกต่างกันว่ามีอะไรบ้าง
Espresso Perfect Shot
กาแฟ Espresso Perfect Shot มีรสชาติที่กลมกล่อม โดยมีความหวาน ขม และเปรี้ยวในระดับที่สมดุลกัน โดยรสชาติจะมีความซับซ้อนและลึกซึ้ง ทำให้ผู้ดื่มรู้สึกถึงรสชาติที่หลากหลายในแต่ละจิบ และสัมผัสของกาแฟ Espresso Perfect Shot ยังเป็นเอกลักษณ์ เพราะตัวกาแฟให้ความรู้สึกหนักแน่นและยังมีความฉ่ำช่วยเพิ่มประสบการณ์การดื่มให้ดีขึ้นอีกด้วย
Espresso Under Extracted
กาแฟ Espresso Under Extracted คือ Espresso ที่ถูกสกัดน้อยจะมีรสชาติที่ขมเกินไปและเปรี้ยวจากกรดชัดเจน ทำให้กาแฟมีรสชาติที่ไม่สมดุล อาจจะเค็มเล็กน้อยหรือความเปรี้ยวที่แหลมคม ให้สัมผัสที่บางเบา ไม่เข้มข้น มีสีที่จางกว่ากาแฟ Espresso Perfect Shot
Espresso Over Extracted
กาแฟ Espresso Over Extracted คือกาแฟที่ถูกสกัดมากเกินไปจนมีรสชาติขมและฝาด ให้ความรู้สึกเหมือนดื่มกาแฟที่ได้จากเมล็ดกาแฟที่ไหม้ ให้ความรู้สึกแห้งและไม่สดชื่น มีบอดี้ที่หนักแน่นเกินไป และเครม่ามักจะดูหนาแน่นแต่ไม่มีความละเอียดเหมือนกาแฟ Espresso Perfect Shot
5 หัวใจหลัก เพื่อความสมบูรณ์ของ Espresso Perfect Shot
เพื่อให้ได้กาแฟ Espresso Perfect Shot ที่สมบูรณ์แบบ ต้องอาศัย 5 ปัจจัยหลักที่สำคัญ โดยแต่ละปัจจัยมีบทบาทสำคัญในการสร้าง Espresso คุณภาพสูงที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
1. กาแฟก้นถ้วย (Heart)
กาแฟก้นถ้วยสำหรับทำ Espresso Perfect Shot ต้องใช้เมล็ดกาแฟที่สดใหม่และมีคุณภาพดี การบดกาแฟให้ละเอียดพอเหมาะ และการแทมป์ให้เรียบเสมอ จะช่วยให้การไหลของน้ำร้อนผ่านผงกาแฟเป็นไปอย่างทั่วถึง ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นหอมที่ชัดเจน
2. กาแฟส่วนกลาง (Body)
กาแฟส่วนกลางสำหรับทำ Espresso Perfect Shot ต้องเลือกเมล็ดกาแฟที่มีบอดี้ดี เช่น เมล็ดกาแฟจากแหล่งปลูกที่มีคุณภาพสูง และการควบคุมอัตราส่วนของผงกาแฟกับน้ำ จะช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มนวลและเข้มข้น การบดกาแฟให้ละเอียดพอเหมาะก็มีผลต่อความหนืดเช่นกัน
3. การเทที่สมดุล (Pour)
การเทที่สมดุลสำหรับทำ Espresso Perfect Shot ต้องใช้แรงดันน้ำที่เหมาะสม (ประมาณ 9 บาร์) และเทน้ำอย่างช้าๆ เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำไหลผ่านผงกาแฟได้ทั่วถึง ไม่ควรเทน้ำเร็วเกินไปหรือช้าเกินไป เพราะจะส่งผลต่อรสชาติและกลิ่นของกาแฟ
4. เวลาที่เหมาะสม (Time)
เวลาที่เหมาะสมสำหรับทำ Espresso Perfect Shot ต้องอยู่ระหว่าง 20-30 วินาที ควรจับเวลาในการสกัดเพื่อให้ได้ปริมาณน้ำกาแฟที่ต้องการ หากใช้เวลาน้อยเกินไปอาจทำให้กาแฟมีรสชาติเปรี้ยว และหากใช้เวลานานเกินไปอาจทำให้กาแฟขมและฝาดได้
5. กากกาแฟที่จับตัว (Biscuit)
กากกาแฟที่จับตัวสำหรับทำ Espresso Perfect Shot ต้องมีลักษณะเรียบเสมอและไม่แฉะหรือแห้งเกินไป หากกากกาแฟจับตัวดี แสดงว่ามีการแทมป์และการบดที่ถูกต้อง
ขั้นตอนการทำกาแฟ Espresso Perfect Shot
มาถึงส่วนที่ทุกคนรอคอยกันแล้ว กับขั้นตอนการทำกาแฟ Espresso Perfect Shot ทำได้อย่างไรบ้าง ไปดูกัน
1. เลือกเมล็ดกาแฟที่สดใหม่
ควรเลือกใช้เมล็ดกาแฟที่เพิ่งคั่วใหม่ โดยควรใช้ภายใน 2 สัปดาห์หลังจากการคั่ว เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นที่ดีที่สุด ควรเลือกร้านขายเมล็ดกาแฟที่น่าเชื่อถือ และตรวจสอบวันที่คั่วบนบรรจุภัณฑ์เพื่อความสดใหม่ แนะนำ Peaberry Thai ซึ่งมีเมล็ดกาแฟที่สดใหม่ เหมาะสมสำหรับทำกาแฟ Espresso Perfect Shot จากแหล่งปลูกกาแฟที่หลากหลาย เพื่อให้ได้กาแฟรสชาติถูกใจ ไม่ว่าจะคอกาแฟรูปแบบไหนก็ต้องชอบ
2. แรงดันบาร์ของเครื่องชงกาแฟ
แรงดันบาร์สำหรับทำกาแฟ Espresso Perfect Shot ควรอยู่ที่ประมาณ 9 บาร์ ซึ่งเป็นแรงดันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการสกัดเอสเพรสโซ หากแรงดันสูงเกินไปอาจทำให้ได้กาแฟรสชาติไหม้
3. อุณหภูมิที่เหมาะสมของน้ำ
อุณหภูมิที่เหมาะสมของน้ำสำหรับทำกาแฟ Espresso Perfect Shot ควรอยู่ระหว่าง 90-96 องศาเซลเซียส ควรใช้เทอร์โมมิเตอร์ตรวจสอบอุณหภูมิของน้ำก่อนการชงเพื่อให้ได้การสกัดที่เหมาะสม และควรรักษาอุณหภูมิให้คงที่ตลอดกระบวนการชงกาแฟ
4. ความละเอียดของผงกาแฟ
ความละเอียดของผงกาแฟสำหรับทำกาแฟ Espresso Perfect Shot ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยควรบดให้ละเอียดกว่าผงน้ำตาลทรายเล็กน้อย เพื่อให้สามารถสร้างแรงต้านทานในระหว่างการสกัดได้อย่างดี ในการทำครั้งแรกอาจจะยากสำหรับมือใหม่ แต่หากทดลองบดในระดับต่างๆ จะได้ความละเอียดที่เหมาะสมและถนัดมือมากขึ้นเรื่อยๆ
5. การเกลี่ยผงกาแฟที่เรียบเนียน
หลังจากบดกาแฟแล้ว ควรใช้แทมเปอร์กดผงกาแฟให้เรียบและแน่น โดยใช้แรงประมาณ 15-20 กิโลกรัม เพื่อให้ผงกาแฟมีความหนาแน่นและเรียบเสมอกัน เหมาะสำหรับทำกาแฟ Espresso Perfect Shot หากทำการแทมป์ออกมาแล้วไม่เรียบจะทำให้น้ำไหลผ่านผงกาแฟไม่ทั่วถึง ส่งผลต่อรสชาติของเอสเพรสโซได้
6. ปริมาณผงกาแฟที่เหมาะสม
ควรใช้ตาชั่งเพื่อชั่งน้ำหนักผงกาแฟอย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้ปริมาณผงกาแฟที่เหมาะสมสำหรับทำกาแฟ Espresso Perfect Shot โดยการทำเอสเพรสโซแบบเดี่ยว (Single Shot) ควรใช้ผงกาแฟประมาณ 7-10 กรัม และสำหรับแบบคู่ (Double Shot) ควรใช้ประมาณ 14-20 กรัม
7. ระยะเวลาสกัดกาแฟ
กาแฟ Espresso Perfect Shot ควรสกัดกาแฟกี่วินาที? โดยทั่วไปแล้วจะถือว่าเวลา 26 วินาทีเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างเอสเพรสโซ หากใช้เวลาน้อยเกินไปจะทำให้กาแฟมีรสเปรี้ยว ในขณะที่หากใช้เวลานานเกินไปจะทำให้เกิดรสขมได้
8. หมั่นทดลองและปรับปรุง
อย่างที่รู้กันไปแล้วว่ากาแฟ Espresso Perfect Shot ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ ดังนั้นจึงควรทดลองและปรับปรุงสูตรไปเรื่อยๆ จนเหมาะสม ซึ่งควรบันทึกผลลัพธ์แต่ละครั้ง เช่น รสชาติ สี และกลิ่น เพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงในครั้งถัดไปได้
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเนื้อหาเกี่ยวกับกาแฟ Espresso Perfect Shot? ได้เห็นกันไปแล้วว่าหากอยากทำกาแฟ Espresso Perfect Shot ต้องอาศัยปัจจัยอะไรบ้าง และทำได้อย่างไร จากนี้การชงกาแฟ Espresso จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่อย่าลืมว่าการทำกาแฟ Espresso Perfect Shot ไม่ได้ทำกันง่ายๆ แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ แค่มีความอดทน หมั่นทดลองและปรับปรุง จะทำให้ได้ Perfect Shot อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ปัจจัยหลักที่ไม่ควรมองข้ามคือเมล็ดกาแฟที่สดใหม่ มีกลิ่น รสชาติ รวมถึงสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ เลือกซื้อเมล็ดกาแฟที่ Peaberry Thai มีเมล็ดกาแฟหลากหลายสายพันธุ์ให้ได้เลือก รับรองว่าจะได้เมล็ดกาแฟที่สดใหม่เหมาะสมสำหรับกาแฟ Espresso Perfect Shot อย่างแน่นอน