คาเฟอีนในกาแฟ กับสารพัดประโยชน์ ที่ไม่ได้มีดีแค่ทำให้ร่างกายตื่นตัว

Image
ประโยชน์ของคาเฟอีน

Key Takeaway

  • คาเฟอีน เป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติ เช่น เมล็ดกาแฟ ใบชา เมล็ดโกโก้ เมล็ดโคล่า มีทำหน้าที่ไปยับยั้งการทำงานของสารอะดีโนซีนที่ทำให้ง่วงนอน เมื่อบริโภคคาเฟอีนจึงทำให้ร่างกายตื่นตัว ง่วงนอนน้อยลง 
  • คาเฟอีนมีประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยเร่งการเผาผลาญ เพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน และช่วยลดอาการปวดหัว 
  • แต่ก็ควรปริโภคคาเฟอีนในปริมาณที่เหมาะสม โดยไม่ให้เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อป้องกันผลข้างเคียงต่างๆ เช่น อาการใจสั่น มือสั่น ไม่มีสมาธิ จนทำให้นอนไม่หลับ
  • มารับประโยชน์จากคาเฟอีนด้วยการเลือกซื้อกาแฟคั่ว ที่ Peaberry Thai ด้วยคุณภาพของเมล็ดกาแฟคั่ว ที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร 

หลายคนคงคุ้นเคยกับความเชื่อที่ว่าอย่าดื่มเครื่องดื่มที่มี ‘คาเฟอีน’ เยอะ เพราะเป็นสารที่ส่งผลไม่ดีต่อร่างกาย อาจจะทำให้ใจสั่น มือสั่น จนใช้ชีวิตลำบาก แต่ความจริงแล้ว คาเฟอีนให้ประโยชน์มากกว่าที่คิด คอกาแฟห้ามพลาด! 

ทำความรู้จักคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟกันว่าคืออะไร มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร และปริมาณที่ควรบริโภคต่อวันคือเท่าไร เพื่อให้ได้ดื่มด่ำไปกับรสชาติของกาแฟได้ได้อย่างสบายใจ

 

รู้จักกับคาเฟอีนในกาแฟ คืออะไร

 

รู้จักกับคาเฟอีนในกาแฟ คืออะไร

คาเฟอีน (Caffeine) คือสารที่พบได้ในธรรมชาติ ซึ่งอยู่ในกลุ่มแซนทีนอัลคาลอยด์ (Xanthine Alkaloid) เป็นผงสีขาว มีรสขม ไม่มีกลิ่น สามารถพบได้ในพืชหลายชนิด โดยเฉพาะเมล็ดกาแฟ ใบชา เมล็ดโกโก้ และเมล็ดโคล่า เป็นต้น 

โดยคาเฟอีนทำหน้าที่เป็นสารกระตุ้นการทำงานของสมองและระบบประสาทส่วนกลาง เข้าไปยับยั้งสารอะดีโนซีน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เราง่วงนอนตามธรรมชาติ จึงช่วยให้เรารู้สึกตื่นตัว มีสมาธิ และลดความเหนื่อยล้า

คาเฟอีน ส่งผลต่อร่างกายอย่างไร

เมื่อคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกาย จะเริ่มถูกดูดซึมผ่านกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก จากนั้นจะเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็วแล้วเดินทางไปยังตับ จากนั้นจะแตกตัวเป็นสารประกอบต่างๆ ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง และระบบอื่นๆ เช่น ระบบเส้นประสาท สมอง และไขสันหลัง 

เมื่อบริโภคคาเฟอีนเข้าไป ร่างกายจะรู้สึกตื่นตัวมากขึ้น รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และไม่ง่วงนอน นอกจากนี้ยังช่วยให้รู้สึกสดชื่นกว่าเดิม เพิ่มสมาธิ รวมถึงลดความเหนื่อยล้าได้อีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยที่เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนจะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยนับจากปริมาณการบริโภคคาเฟอีนที่สูงสุดทั่วโลกในแต่ละวัน

 

ประโยชน์ของคาเฟอีน มีมากกว่าที่คุณคิด!

 

ประโยชน์ของคาเฟอีน มีมากกว่าที่คุณคิด!

คาเฟอีนที่เรารู้จักกันดีว่าทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วงนอน ยังมีประโยชน์อื่นๆ ที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ ลองมาดูประโยชน์อีกหลายข้อของคาเฟอีนกันได้เลย!

1. ช่วยให้สมองรู้สึกตื่นตัว

ฤทธิ์ของคาเฟอีนในการยับยั้งสารที่ทำให้ง่วงนอน ช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว ในขณะเดียวกันก็เพิ่มสารสื่อประสาท เช่น สารโดพามีนและสารนอร์อิพิเนฟริน ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นความสุขและทำให้ร่างกายตื่นตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้สมองสามารถจดจ่อกับสิ่งต่างๆ ได้ดี และลดความเหนื่อยล้า รวมถึงยังมีฤทธิ์ที่สามารถลดภาวะซึมเศร้า หรือโรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน และโรคหลอดเลือดสมองได้อีกด้วย

2. ช่วยเรื่องการเผาผลาญ

คาเฟอีนมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง จึงทำให้เกิดกระบวนการเผาผลาญพลังงาน และไขมัน จากการศึกษาวิจัยพบว่า หากดื่มคาเฟอีน 300 มิลลิกรัมต่อวัน จะสามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญแคลอรีได้ถึง 79 กิโลแคลอรี นอกจากนี้ยังพบว่าคาเฟอีนมีส่วนช่วยป้องกันโรคตับ โรคมะเร็งตับ หรือโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้อีกด้วย

3. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย

คาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญและช่วยเก็บกลูโคส (น้ำตาลในเลือด) ไว้ได้ดีขึ้น ขณะออกกำลังกายร่างกายจะมีพลังงานมาจากกลูโคสมากขึ้น ทำให้สามารถออกกำลังกายได้ต่อเนื่องและยาวนานขึ้น  โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงของกล้ามเนื้อมากๆ เช่น การวิ่ง การยกน้ำหนัก หรือการเล่นกีฬาเป็นทีม คาเฟอีนจะช่วยลดการใช้พลังงานจากกล้ามเนื้อ ทำให้รู้สึกไม่ค่อยเหนื่อย 

นอกจากนี้คาเฟอีนยังช่วยกระตุ้นการหลั่งสารอะดรีนาลีนขณะออกกำลังกาย ส่งผลดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและการขยายตัวของหลอดเลือด สารอะดรีนาลีนส่งผลให้กล้ามเนื้อรู้สึกผ่อนคลาย และกล้ามเนื้อหัวใจก็แข็งแรงจากการทำงานที่มากขึ้นด้วย

มีการศึกษาวิจัยด้วยการให้ผู้ทดลองปั่นจักรยานทั้งหมด 38 คน แล้วพบว่าผู้ที่ได้รับคาเฟอีน 30 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว ก่อนการปั่นจักรยาน สามารถปั่นจักรยานได้เร็วกว่ากลุ่มที่ควบคุม และกลุ่มที่ได้รับยาหลอก

4. ช่วยความเสี่ยงโรคเบาหวาน

จากการศึกษาวิจัยพบว่าการดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีน 1 แก้ว สามารถลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ถึง 7% อย่างไรก็ตามการดื่มกาแฟแต่ละครั้งควรระวังเรื่องการเพิ่มน้ำตาลหรือไขมันในกาแฟด้วย เช่น การเติมครีม น้ำตาล หรือไซรัป เพราะอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาได้  

5. ช่วยลดอาการปวด

คาเฟอีนถูกนำมาใช้ในการรักษาทางการแพทย์ด้วย โดยสามารถลดความเจ็บปวดได้ดี เช่น ลดอาการปวดศีรษะจากไมเกรน ทั้งนี้แพทย์ยังนิยมนำคาเฟอีนไปฉีดเข้าเส้นเลือดให้กับคนไข้หลังผ่าตัด เพื่อลดอาการปวดหัวอีกด้วย 

ปริมาณที่ควรบริโภคคาเฟอีนต่อวัน

แน่นอนว่า การบริโคภอะไรที่มากเกินไปอาจทำให้ส่งผลร้ายมากกว่าจะส่งผลดี คาเฟอีนก็เช่นกัน ดังนั้นปริมาณที่ควรบริโภคคาเฟอีนต่อวันคือไม่เกิน 300 มิลลิกรัม โดยทั่วไปกาแฟประมาณ 1 ช้อนชา จะมีคาเฟอีนอยู่ประมาณ 80 มิลลิกรัม หากจะดื่มกาแฟจึงควรมีโควต้าการดื่มคาเฟอีนในกาแฟแต่ละชนิดในแต่ละวัน ดังนี้

  • กาแฟดำ 1 แก้ว มีคาเฟอีนประมาณ 80 มิลลิกรัม จึงสามารถดื่มกาแฟดำได้ไม่เกิน 3-4 แก้วต่อวัน
  • กาแฟกระป๋อง มีคาเฟอีนประมาณ 150-160 มิลลิกรัม จึงสามารถดื่มได้ไม่เกิน 2 กระป๋องต่อวัน
  • กาแฟสด มีคาเฟอีนประมาณ 100 มิลลิกรัม จึงสามารถดื่มได้ไม่เกิน 3 แก้วต่อวัน

ทั้งนี้เครื่องดื่มประเภทค่างๆ ยังให้ปริมาณคาเฟอีนที่ต่างกันออกไป เช่น 

  • ชาชง 100 มิลลิลิตร จะให้ปริมาณคาเฟอีนประมาณ 20 มิลลิกรัม 
  • ช็อกโกแลตร้อน 100 มิลลิลิตร จะให้ปริมาณคาเฟอีนประมาณ 3 มิลลิกรัม 
  • ถั่วโคล่า 100 มิลลิกรัม จะให้ปริมาณคาเฟอีนประมาณ 8 มิลลิกรัม 

 

หากดื่มคาเฟอีนมากเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น?

 

หากดื่มคาเฟอีนมากเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น?

คาเฟอีนนั้นมีข้อดีต่อร่างกายมากมาย แต่ก็มีข้อเสียเช่นกันหากบริโภคมากเกินไป เพราะคาเฟอีนส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน ซึ่งสารที่กระตุ้นระบบประสาท ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและมีอาการใจสั่น กระวนกระวายใจ หงุดหงิด ไม่มีสมาธิ จนถึงขั้นทำให้นอนไม่หลับได้ด้วย ในบางกรณีอาจมีอาการมือสั่นร่วมด้วย ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นอาการในผู้ที่ได้รับคาเฟอีนมากกว่า 300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือมากกว่าระดับปกติที่เคยได้รับนั่นเอง

คนกลุ่มไหนที่ควรเลี่ยงบริโภคคาเฟอีน

แม้คาเฟอีนจะมีประโยชน์มากมาย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถบริโภคได้ เพราะสภาพร่างกายและสุขภาพที่ต่างกัน แล้วคนกลุ่มไหนที่ควรเลี่ยงการบริโภคคาเฟอีน ไปดูกัน

  • สตรีตั้งครรภ์ หรือกำลังวางแผนมีลูก
  • เหล่าคุณแม่ที่กำลังให้นมลูก
  • เด็กหรือวัยรุ่น เพราะมีร่างกายไวต่อผลข้างเคียงได้ง่ายกว่าวัยผู้ใหญ่
  • คนที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ เช่น นอนหลับยาก นอนไม่หลับ
  • คนที่มีอาการปวดไมเกรน ปวดศีรษะเรื้อรัง
  • คนที่มีปัญหาเรื่องความวิตกกังวล
  • คนที่เป็นกรดไหลย้อน เป็นแผลในกระเพาะอาหาร
  • คนที่มีปัญหาเรื่องหัวใจหรือมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • คนที่มีปัญหาเรื่องความดันสูง
  • คนที่กำลังกินอาหารเสริม หรือยาบางประเภท เช่น ยารักษาโรคหอบหืด ยารักษาโรคหัวใจ

สรุป

คาเฟอีนเป็นสารตามธรรมชาติที่พบได้ในเมล็ดกาแฟ ใบชา เมล็ดโกโก้ เมล็ดโคล่า มีฤทธิ์กระตุ้นสมองและระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งขัดขวางการทำงานของสารอะดีโนซีนที่ทำให้ง่วง เมื่อบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจึงทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วงนอน และมีสมาธิมากขึ้น 

นอกจากนี้ คาเฟอีนยังมีประโยชน์ เช่น ช่วยเผาผลาญ เพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน และช่วยลดอาการปวดหัว เป็นต้น แต่ควรปริโภคคาเฟอีนไม่ให้เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อป้องกันผลข้างเคียง เช่น ใจสั่น มือสั่น กระวนกระวาย และนอนไม่หลับ

สายกาแฟห้ามพลาด! มารับประโยชน์จากคาเฟอีนด้วยกาแฟคั่วคุณภาพจาก Peaberry Thai กันดีกว่า เมล็ดกาแฟคั่วที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและเป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้การดื่มกาแฟของคุณ เป็นช่วงเวลาที่ Perfect ที่สุด 

แชร์