เลือกซื้อเครื่องชงกาแฟแบบไหนดี ให้คุ้มค่า ตอบโจทย์ได้ทุกการชง

Key Takeaway

• เครื่องชงกาแฟมีหลายประเภท เช่น ดริป เฟรนช์เพรส แคปซูล เอสเพรสโซ มอคคาพอต สุญญากาศ หรืออัตโนมัติ 
• หากเจ้าของร้านกาแฟอยากซื้อเครื่องชงกาแฟคุณภาพดี ต้องเลือกเครื่องชงกาแฟให้เหมาะกับขนาดของร้าน ทำได้หลายเมนู เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ดูแลรักษาและทำความสะอาดง่าย เพื่อให้ได้ใช้ไปอย่างยาวนาน
• ใครอยากลองซื้อเครื่องชงกาแฟมาใช้เองที่บ้าน ควรพิจารณาเรื่องไลฟ์สไตล์การชงกาแฟ แบรนด์ที่ให้คำแนะนำพร้อมมีบริการหลังการขายที่ดี เลือกให้ดีไซน์เข้ากับบ้าน และที่สำคัญคืองบประมาณ
• ถ้ากำลังหาเครื่องชงกาแฟคุณภาพดี น่าเชื่อถือ เลือกเครื่องชงกาแฟ ของ Peaberry Thai ที่มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย ฟังก์ชันครบครัน ทำเมนูกาแฟได้หลากหลาย มีหลายราคาและขนาด ให้คุณได้เลือกตามงบประมาณที่มีได้เลย 

เครื่องชงกาแฟมีหลายรูปแบบและหลายขนาด ก่อนซื้อต้องทำการบ้านไว้ก่อน ใครที่อยากเปิดร้านกาแฟ แต่กำลังประสบปัญหา ไม่รู้วิธีเลือกเครื่องชงกาแฟสด และไม่รู้ว่าจะซื้อเครื่องชงกาแฟที่ไหนดี เพื่อให้คุณได้เป็นเจ้าของคาเฟ่ได้ง่ายๆ บทความนี้มีคำตอบ!

ทำความรู้จักเครื่องชงกาแฟแต่ละประเภท

เครื่องชงกาแฟมีหลายประเภท ซึ่งเครื่องชงกาแฟมีกี่แบบ แต่ละแบบมีความต่างกันอย่างไร ไปดูกัน

• เครื่องชงกาแฟแบบดริป (Drip Pot Coffee Maker) เป็นการใช้น้ำร้อนเทลงบนกาแฟบดที่วางอยู่บนกระดาษกรอง แล้วน้ำกาแฟจะค่อยๆ ไหลผ่านที่กรองลงมาเป็นหยด สามารถควบคุมปริมาณได้ดี และทำความสะอาดง่าย 
• เครื่องชงกาแฟเฟรนช์เพรส (French Press) เป็นการชงที่ไม่ต้องใช้กระดาษกรอง เป็นภาชนะทรงกระบอก มีแกนกดพร้อมตะแกรง ทำให้ประหยัดเวลาและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
• เครื่องชงกาแฟแคปซูล (Capsule machine) เป็นการชงที่ใช้แคปซูลกาแฟบดสำเร็จรูป เครื่องจะฉีดน้ำร้อนแรงดันสูงผ่านแคปซูล เป็นเครื่องที่ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องชั่งหรือตวงกาแฟเลย
• เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ (Espresso Machine) พบเห็นได้ทั่วไปในร้านกาแฟ ให้รสชาติกาแฟที่เข้มข้น เป็นพื้นฐานของเครื่องดื่มกาแฟหลายชนิด เช่น คาปูชิโน ลาเต้ เป็นเครื่องที่มีราคาสูงและต้องการทักษะในการใช้งาน
• เครื่องชงกาแฟมอคคาพอต (Moka Pot) ผสมผสานระหว่างการกรองแบบดริปและแรงดันแบบเอสเพรสโซ เหมาะสำหรับชงกาแฟเข้มข้น เป็นพื้นฐานสำหรับเครื่องดื่มหลายชนิด เช่น ลาเต้ อเมริกาโน มอคคา คาปูชิโน และเอสเปรสโซ
• เครื่องชงกาแฟแบบสุญญากาศ (Syphon Coffee) ใช้แรงดันไอน้ำและสุญญากาศในการชงกาแฟ คล้ายกับกระบวนการกลั่น สามารถควบคุมอุณหภูมิและเวลาได้อย่างแม่นยำ ทำให้ได้รสชาติกาแฟที่เข้มข้น 
• เครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติ (Fully Automatic Coffee Machine) เป็นเครื่องที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทำงานอัตโนมัติตั้งแต่การบดเมล็ดกาแฟจนถึงการชง ชงกาแฟได้หลายประเภท เช่น เอสเปรสโซ คาปูชิโน หรือลาเต้ สามารถปรับความเข้มข้นและปริมาณกาแฟได้ บางรุ่นมีระบบทำฟองนมอัตโนมัติด้วย

วิธีเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟสำหรับใช้ในร้านคาเฟ่ ให้คุ้มค่า ทนทาน

มาดูวิธีเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟสำหรับใช้ในร้านกาแฟหรือคาเฟ่ เพื่อให้ได้เครื่องชงที่คุ้มค่า ทนทาน และสามารถใช้งานได้ยาวนานกัน

1. เครื่องชงกาแฟที่เหมาะกับขนาดธุรกิจ

ก่อนเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟควรพิจารณาก่อนว่าธุรกิจเป็นร้านกาแฟขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก เพื่อควบคุมงบประมาณให้เหมาะสม เลี่ยงการซื้ออุปกรณ์ที่ไม่จำเป็น เช่น หากเป็นร้านขนาดใหญ่ควรเลือกเครื่องชงกาแฟขนาดใหญ่ มีหลายหัว และสามารถรังสรรเมนูได้หลากหลาย เพื่อความสะดวก รวดเร็ว แต่ยังควบคุมคุณภาพของกาแฟได้อยู่

2. พิจารณาจากอายุการใช้งาน

ควรเลือกเครื่องชงกาแฟที่ทำจากวัสดุพรีเมียม มีคุณภาพ และทนทาน เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนาน นอกจากนี้ควรมองหาเครื่องชงกาแฟที่ได้รับการรับรองจากองค์กร เช่น NSF International หรือ UL เพื่อให้แน่ใจว่า เครื่องชงกาแฟเครื่องนั้นมีมาตรฐานความปลอดภัย และสุขอนามัย ให้ได้ลงทุนครั้งเดียว แต่สามารถใช้เครื่องชงกาแฟไปได้อีกในระยะยาว

3. เครื่องชงกาแฟที่ทำความสะอาดง่าย

ควรเลือกเครื่องชงกาแฟที่สามารถดูแลรักษาและทำความสะอาดง่าย เพราะในแต่ละวันเราต้องใช้งานเครื่องพวกนี้ทั้งวัน หากเป็นเครื่องชงกาแฟที่ดูแลรักษายาก อาจจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องลดลง เพราะไม่ได้รับการดูแลอย่างถั่วถึง เพื่อให้สามารถใช้งานได้ยาวนานและมีประสิทธิภาพ การเลือกเครื่องชงกาแฟที่ทำความสะอาดได้ง่าย ก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน

4. ฟังก์ชันครบครัน รังสรรค์ได้หลายเมนู

ร้านกาแฟหรือคาเฟ่แต่ละร้านมีเอกลักษณ์ในการรังสรรเมนู แต่การเลือกเครื่องชงกาแฟที่มีฟังก์ชันครบครันก็เป็นเรื่องจำเป็น เพื่อให้สามารถทำได้หลายเมนู ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การดื่มกาแฟของลูกค้า เช่น เครื่องชงเอสเปรสโซ ที่มีคุณสมบัติในการตั้งค่าช็อตแบบตั้งโปรแกรมได้ เป็นเครื่องที่มีเฟืองบดในตัว และมีเครื่องตีฟองนมอัตโนมัติด้วย เป็นต้น

5. เลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ มีบริการหลังการขาย

สิ่งที่สำคัญในการเลือกเครื่องชงกาแฟคือการเลือกจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง แม้อาจจะมีราคาสูงขึ้นมาหน่อยแต่ถ้ามีการการันตีถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือ รวมถึงการรับประกันและมีบริการหลังการขายที่ใส่ใจ ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

วิธีเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟสำหรับใช้ในบ้าน ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์

สำหรับใครที่ไม่อยากไปซื้อกาแฟดื่ม อาจจะเริ่มจากการลองทำเองที่บ้านได้ง่ายๆ ด้วยเครื่องชงกาแฟคุณภาพเยี่ยม ขนาดกะทัดรัด ให้เหมาะสมกับพื้นที่ในบ้าน โดยสามารถพิจารณาก่อนเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟได้ดังนี้

1. เลือกจากวิธีชงกาแฟที่ถนัด

แน่นอนว่าไลฟ์สไตล์ของคนเรานั้นต่างกัน ยิ่งเรื่องไลฟ์สไตล์การดื่มกาแฟ ยิ่งสามารถแตกแขนงไปได้อีกหลายรูปแบบ สำหรับคอกาแฟสาย Speed Bar ชอบความรวดเร็ว ขอแนะนำเครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซชนิดแรงดันสูงมาพร้อมเครื่องบดกาแฟไฟฟ้า หรือจะเป็นเครื่องแบบแคปซูลก็ยิ่งสะดวกมากขึ้นไปอีก 

แต่สำหรับสาย Slow Bar ลองเลือกเครื่องชงกาแฟที่ไม่ต้องใช้แรงดันสูง เน้นการดึงกลิ่นหอมของกาแฟออกมา และดื่มด่ำกับรสชาติกลมกล่อมของกาแฟ อย่างเครื่องชงกาแฟแบบดริปเปอร์ หรือ AeroPress เป็นต้น

2. ฟังก์ชันการใช้งานต้องตอบโจทย์

หากจะเลือกเครื่องชงกาแฟสักเครื่องไปไว้ที่บ้าน ฟังก์ชันต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การชงกาแฟของเราด้วย เช่น การเลือกเครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติเพื่อความสะดวก หรือใครสายชิลๆ Slow Bar ให้เลือกเป็นเครื่องชงกาแฟแบบทำมือหรือแบบ Manual แต่ต้องมีเครื่องบดกาแฟคุณภาพดี เพื่อให้รสกาแฟออกมาทำที่ต้องการ เป็นเครื่องที่ทำความสะอาดง่าย เพราะถ้าเครื่องไม่สะอาดอาจจะทำให้กาแฟเสียรสชาติได้ เป็นต้น

3. ดีไซน์ที่เข้ากับตัวบ้าน

สไตล์เครื่องชงกาแฟควรเลือกให้เข้ากับตัวบ้านด้วย เพราะเครื่องชงกาแฟไม่ได้มีหน้าที่แค่ชงกาแฟแต่ยังสามารถทำหน้าที่เป็นของตกแต่งบ้านไปในตัวได้อีกด้วย ปัจจุบันมีเครื่องชงกาแฟหลากดีไซน์ ทั้งแบบทันสมัยและสไตล์วินเทจ สามารถเลือกตามที่ต้องการได้เลย โดยเราอาจจะสร้างมุมดื่มกาแฟไว้สักพื้นที่ของบ้านแล้วตกแต่งเพิ่มเติม เช่น แนวมินิมอล คลาสสิก หรือสดใส แต่ต้องเลือกสีให้คุมโทนกันด้วยเพื่อให้มีความสวยงามและลงตัว

4. เลือกจากงบประมาณที่มี

หลายคนมีความเชื่อที่ว่าการชงกาแฟเองที่บ้านจะช่วยประหยัดค่ากาแฟลงได้อีกเยอะ แต่ความจริงแล้ว การทำกาแฟเองที่บ้านก็ต้องมีต้นทุนเช่นกัน แต่เราสามารถเลือกตามงบประมาณที่มีได้ เพราะเครื่องชงกาแฟมีหลากช่วงราคา สิ่งสำคัญคือควรเลือกตามไลฟ์สไตล์การชงของเรา และดูว่าแบรนด์นั้นมีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพดีไหม เพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว

5. เลือกยี่ห้อที่มีบริการหลังการขาย

เครื่องชงกาแฟย่อมมีวันเสื่อมสภาพอยู่แล้วจึงควรเลือกเครื่องชงกาแฟจากแบรนด์ที่มีบริการหลังการขาย ให้คำแนะนำได้ดี มีทีมงานที่ชำนาญการ และมีประกันที่ครอบคลุม สามารถส่งเครื่องไปซ่อมหรือมีอะไหล่ที่เปลี่ยนให้ได้หากเครื่องชงกาแฟเกิดมีปัญหา  สิ่งเหล่านี้จะสามารถทำให้เรารู้สึกอุ่นใจ มั่นใจว่าเครื่องชงกาแฟจะได้รับการดูแลที่ดี 

สรุป

เครื่องชงกาแฟมีหลายประเภท เช่น ดริป เฟรนช์เพรส แคปซูล เอสเปรสโซ มอคคาพอต สุญญากาศ และอัตโนมัติ หากผู้ประกอบการร้านคาเฟ่อยากซื้อเครื่องชงกาแฟคุณภาพดี ต้องเลือกให้เหมาะกับขนาดของร้าน ทำได้หลายเมนู เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ดูแลทำความสะอาดง่าย เพื่อให้ใช้งานได้นาน

แต่สำหรับใครที่อยากลองซื้อเครื่องชงกาแฟมาใช้เองที่บ้าน ควรพิจารณาตามไลฟ์สไตล์ เลือกแบรนด์ให้คำแนะนำที่ดี มีบริการหลังการขาย ดีไซน์เข้ากับบ้าน และที่สำคัญคือตรงกับงบที่มี

ถ้ากำลังหาเครื่องชงกาแฟคุณภาพดี น่าเชื่อถือ เลือกเครื่องชงกาแฟจาก Peaberry Thai ที่ดีไซน์ทันสมัย ทำได้หลายเมนูกาแฟ มีหลายราคาและขนาดให้เลือกตามงบประมาณที่มีได้เลย